นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการหารือเรื่องแนวทางการลดค่าพลังงาน ว่า เมื่อวานได้มีการโทรไปหาว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ซึ่งวันนี้จะมีการหารือกันอีกครั้ง เข้าใจว่าทุกคนอยากรู้จำนวนในการลดค่าพลังงาน ขอให้ทุกฝ่ายใจเย็นๆ ก่อน ซึ่งต้องมีการดูในเรื่องของงบประมาณและขั้นตอนอื่นๆประกอบด้วย
ส่วนมาตรการพักชำระหนี้เกษตรกร ได้มีการหารือกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ธ.ก.ส. ซึ่งถือเป็นวาระเร่งด่วนของเพื่อไทยอยู่แล้วในการหาเสียง ต้องดูแลรายละเอียดให้ชัดเจนว่าจะมีการพักหนี้จำนวนเท่าไหร่ หลัก ๆ คือความต้องการให้เกษตรกรได้ไปทำมาหากิน โดยไม่ต้องพะวงหน้าหลัง จะได้มีขวัญและกำลังใจในการหารายได้ คาดว่าน่าจะเริ่มได้ประมาณเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งขณะนี้ได้ขอให้ทางกรรการใหญ่ ธ.ก.ส. ดูขั้นตอนรายละเอียดอยู่
ทั้งนี้ยังได้มีการคุยกับสถาบันจัดอันดับหนี้ ซึ่งดูแลหนี้สินทั้งหมดของประชาชน ก็จะมีการดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากปัญหาหนี้สินมีหลายกลุ่มไม่ใช่แค่เกษตรกร
ส่วนข้อสงสัยที่ว่าโครงการพักชำระหนี้จะทำยังไงให้แตกต่างจากเดิมไหม เพราะหลายรัฐบาลที่เคยทำมาหลายปีไม่ได้ช่วยลดหนี้จริง นายเศรษฐา กล่าวว่า การลดหนี้ชั่วคราวเป็นแค่การบรรเทาทุกข์และฟื้นฟูจิตใจให้มีขวัญกำลังใจการหารายได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใด การเพิ่มรายก็ได้ก็เป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตกร ก็ต้องเร่งทำ
นายเศรษฐา ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงการเตรียมนำรายชื่อ ครม.ขึ้นทูลเกล้าฯนั้น คาดว่าวันนี้น่าจะมีความเรียบร้อยในการตรวจสอบรายชื่อ และจะมีการสอบถามไปยังสำนักงานเลขาธิการ ครม. ส่วนเรื่องความเห็นของกฤษฎีกาว่าด้วยเรื่องของคุณสมบัติรัฐมนตรีของนายพิชิต ชื่นบาน ก็ไม่อยากเน้นไปที่คนๆ เดียว ตอนนี้ก็ต้องรอความเห็นของกฤษฎีกา ซึ่งมีคนๆ ด้วย หากความเห็นของกฤษฎีกามาภายในวันนี้ก็จะยื่นทูลเกล้าฯ วันนี้
ส่วนกรณีการประชุมสภาล่มเมื่อวานครั้งแรก เห็นว่า ความรับผิดชอบต่อสภาก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งในการประชุม สส.ของพรรคในวันอังคารหน้า ก็จะมีการกำชับเรื่องความรับผิดชอบต่อการประชุมสภา เพราะการประชุมสภาล่มไม่ควรที่จะเกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า การประชุมสภาหากมีการตั้งกระทู้ถามนายกฯ หรือ รมต.ที่เกี่ยวข้องนั้น ก็ต้องดูอีกครั้งว่า ติดภารกิจอะไรหรือไม่ เนื่องจากส่วนตัวแล้วอยู่ฝ่ายบริหาร และต้องมีความรับผิดชอบต่อฝ่ายนิติบัญญัติ หากฝ่ายนิติบัญญัติมีข้อกังวล ก็เป็นหน้าที่ของ นายกฯที่จะต้องไปตอบ หรือหากจำเป็นที่จะต้องมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจง ก็ต้องทำหน้าที่ต่อสภา
นายเศรษฐา ยังฝากถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ได้อำลาตำแหน่งไปเมื่อวานนี้ว่า ตอนที่ตนได้เข้าไปที่ทำเนียบรัฐบาล ได้ทราบว่าพลเอกประยุทธ์ชอบตีกอล์ฟ จึงแนะนำให้ไปเที่ยวต่างประเทศบ้าง ท่านก็บอกว่าลูกสาว 2 คนของท่านก็ไปแล้วสนุกโดยตลอด ตนก็บอกว่าขอให้ลูกสาวพาไปเที่ยวล้าง ให้ท่านไปเที่ยวต่างประเทศ พร้อมอวยพรให้พลเอกประยุทธ์รักษาสุขภาพให้ดี และเล่นกอล์ฟให้ดี ส่วนกรณีมีกระแสข่าวนายทักษิณ ชินวัตร ได้ขอพระราชทานอภัยโทษไปแล้วเมื่อวานนี้ นายเศรษฐาตอบเพียงสั้นๆ ว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ มองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว
ส่วนประเด็นเรื่องของการเปิด “ฟรีวีซ่า” ที่มีข้อกังวลของภาคธุรกิจการท่องเที่ยวในเรื่องของความชัดเจนในประเด็นดังกล่าว ส่วนตัวต้องขอโทษหลายฝ่าย ที่ตนพูดไม่ชัดเจน แต่คือ “ฟรีวีซ่า” ไม่ใช่การไม่เสียค่าธรรมเนียม แต่แค่ไม่ต้องขอวีซ่า และยังต้องเสียค่าธรรมเนียมอยู่ แต่ก็มั่นใจว่าทุกภาคส่วนเข้าใจในประเด็นดังกล่าว แต่การยกเว้นการขอวีซ่าน่าจะเป็นชั่วคราวในช่วงไฮซีซั่น และไม่ได้คุยเพียงกระทรวงการต่างประเทศ แต่ยังได้มีการคุยกับฝ่ายความมั่นคง ท่าอากาศยาน เป็นการดูทั้งระบบในเรื่องของการเดินทางเข้ามาในระบบ รวมถึงรถโดยสารสาธารณะที่เข้าในพื้นที่สนามบินด้วย และได้มีการเห็นชอบในหลักการณ์ตรงนี้ไปเบื้องต้นแล้ว หลายฝ่ายก็เห็นด้วยและพร้อมที่จะผลักดัน เบื้องต้นคาดว่าน่าจะทำได้ภายใน 1 ตุลาคมนี้
นอกจากนี้ยังมีเรื่องการพัฒนากีฬาในประเทศ เมื่อวานนี้ได้มีการเชิญผู้ทรงคุณวุฒิมาพูดคุย ซึ่งทางการกีฬาแห่งประเทศไทย ยังมีกองทุนพัฒนากีฬา ซึ่งอีกไม่ถึงเดือนจะถึงช่วงเอเชียนเกมส์แล้ว แต่หลายสมาคมยังไม่ได้รับเงินทุน ซึ่งค้างอยู่หลายล้านบาท ก็ได้มีการฝาก ผอ.ที่เกี่ยวกับด้านกองทุนกีฬาให้ดูแลตรงนี้ หากมีการจ่ายเงินออกมาได้ ก็จะเป็นขวัญและกำลังใจให้กับนักกีฬา เพื่อชิงเหรียญทองในการแข่งขัน เป็นเกียรติประวัติแก่ประเทศ เพราะทราบมาว่าหลายสมาคมก็เดือดร้อนในเรื่องของเงินทุน
ส่วนเรื่องกรณี กกท.โดยตัดงบ 150 ล้านบาท จะมีผลกับงานมอเตอร์จีพีหรือไม่ เพราะเป็นงานเกี่ยวกับด้านการกีฬา ท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็น่าเป็นห่วง แต่ต้องดูก่อนว่า 150 ล้านบาทนั้นตัดไปทำไม หรือมีทางไหนหรือไม่ที่จะดำเนินกิจกรรมไปด้วยการลดงบประมาณไปด้วย