คัดลอก URL แล้ว
‘สันธนะ’ ยื่นหนังสือเสนอตัวเป็นที่ปรึกษา ‘นายกฯ เศรษฐา’

‘สันธนะ’ ยื่นหนังสือเสนอตัวเป็นที่ปรึกษา ‘นายกฯ เศรษฐา’

วันที่ 31 ส.ค. 66 เวลา 10.30 น. ที่ พรรคเพื่อไทย นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เดินทางมาพรรคเพื่อไทย มีความประสงค์ยื่นหนังสือแนะนำตัว และเสนอตัวต่อ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ให้คำปรึกษา พิจารณาเสนอความเห็น หรือข้อเสนอแนะต่าง ๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย เกี่ยวข้องกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

นายสันธนะ กล่าวว่า ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ไม่เคยพูดเรื่องตำรวจเลย ตนยังมองไม่เห็นเลยว่าจะมีรัฐมนตรีท่านไหนของ ครม. เศรษฐา1 จะลงมาดูแลกำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เหตุผลเนื่องจากพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ ฉบับใหม่ล่าสุด พุทธศักราช 2565 มาตรา6 ซึ่งเลี่ยงไม่ได้ เพราะบัญญัติไว้ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นส่วนราชการอยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี

สำหรับสาเหตุที่ตนมาเสนอตัว และมาแนะนำตัววันนี้ เพื่อขอทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมาตนเคยเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย 4-5 ปี ก่อนจะลาออกมา โดยตนมีเหตุผลที่ออกจากพรรค โดยใบลาออกระบุว่า มีความกังวลว่าพรรคจะไปร่วมมือทางการเมืองกับฝ่ายเผด็จการ ทั้งนี้ สมัยยังเป็นสมาชิกพรรค ตนเคยขึ้นไปได้ทุกชั้นและทุกห้องของพรรคเพื่อไทย

ประเด็นหลังจาก ครม. จัดตั้งสำเร็จ สิ่งที่ตนไม่อยากให้เกิดขึ้น คือการซื้อขายตำแหน่งข้าราชการตำรวจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน จะไม่มีข้าราชการตำรวจฆ่าตัวตายอีกต่อไปในรัฐบาลนี้ หากได้เป็นที่ปรึกษานายกฯ ตนจะเรียกคืนความศรัทธา ความเชื่อมั่น กลับมาให้ทุกคนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยากได้ยินประชาชนเรียกตำรวจว่า “คุณตำรวจที่รัก” ที่ไม่ใช่แบบทุกวันนี้

การที่ตนขอตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ต้องตีความตำแหน่งนี้ด้วย เพราะเป็นตำแหน่งตามพระราชบัญญัติราชการบริหารแผ่นดิน 2534 มาตรา 11 (6) เป็นตำแหน่งซึ่งไม่ใช่ข้าราชการการเมือง ไม่มีค่าตอบแทน ยายกฯ สามารถเซ็นแต่งตั้งได้เลย โดยมีหน้าที่ให้คำปรึกษา เสนอความเห็น หรือข้อเสนอแนะต่างๆ ตนระบุชัดเจนว่าเกี่ยวกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเท่านั้น ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับกระทรวงไหน โควตาไหนของพรรคทั้งสิ้น ไม่ได้มาหาประโยชน์ และไม่ได้มาให้พรรคเพื่อไทยมีความกังวลใจอะไรต่อตัวของตน

โดยหนังสือที่นำมายื่นให้กับนายกฯ วันนี้ เป็นเอกสารอนะนำตัวแบบง่าย ๆ รวมถึงมีภาพนิ่งของตนที่ถ่ายร่วมกับทั้งบุคคลภายในพรรค และบุคคลภายนอก มีทั้งสิ้น 33 ภาพ เพราะตนเองเป็นนักเรียนในร้อยตำรวจคนที่ 33 จึงใส่มาเป็นสัญญา


ข่าวที่เกี่ยวข้อง