คัดลอก URL แล้ว
“ปังชาเชียงราย” อึ้งถูกเรียกค่าเสียหาย 102 ล้าน

“ปังชาเชียงราย” อึ้งถูกเรียกค่าเสียหาย 102 ล้าน

กรณี “ร้านปังชาเชียงราย” ถูก “ร้านลูกไก่ทอง” เรียกค่าเสียหาย 102 ล้านบาท โดยอ้างว่าได้ละเมิดเครื่องหมายการค้า ใช้ชื่อ “ปังชา” ที่ร้านลูกไก่ทอง ได้จดทะเบียนการค้าไว้ และให้หยุดใช้คำว่า “ปังชา”

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับ เจ้าของร้านปังชาเชียงราย ทราบว่า ทางร้านได้รับหนังสือเรียกค่าเสียหาย เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ตอนแรกก็ตกใจ จึงได้รีบเปลี่ยนชื่อร้านแรกที่ตั้งอยู่ในศูนย์การค้า

ส่วนร้านที่อยู่ในเขตตัวเมืองเชียงราย ยังไม่ได้ดำเนินการ เพราะอยู่ระหว่างปรึกษาทนายความ และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง

ยืนยัน ทางร้านไม่ได้ตั้งใจที่จะลอกเลียนแบบ หรือ ใช้ชื่อซ้ำ แต่เป็นเพียงการตั้งชื่อจากการขายเมนูขนมปังและน้ำชา และเปิดกิจการมาตั้งแต่ปี 2564

ส่วนโล้โก้ของร้าน จากการตรวจสอบก็ไม่เหมือนกับร้านปังชาชื่อดัง ตอนนี้เริ่มเกิดความเสียหายแล้ว เพราะร้านที่อยู่ในห้าง เริ่มขายไม่ได้

ปังชาสงขลา แค่ชื่อเหมือน โดนเรียก 7 แสน

ส่วนอีกรายที่ได้รับหนังสือเรียกค่าเสียหายถึง 7 แสนบาท และหากล่าช้าจะปรับเงินอีก 1 หมื่นบาทต่อวัน พบว่า เป็นเจ้าของร้านชา ที่หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยใช้คำว่า “ปังชา” ติดที่ป้ายไฟหน้าร้าน

ส่วนอีกรายที่ได้รับหนังสือเรียกค่าเสียหายถึง 7 แสนบาท และหากล่าช้าจะปรับเงินอีก 1 หมื่นบาทต่อวัน พบว่า เป็นเจ้าของร้านชา ที่หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยใช้คำว่า “ปังชา” ติดที่ป้ายไฟหน้าร้าน

เจ้าของร้าน ยืนยัน ไม่มีเจตนาละเมิดลิขสิทธิ์ หรือเครื่องหมายการค้า เพราะคำว่า “ปังชา” เพียงใช้สื่อความหมายรวมถึงขนมปังและชาเอาไว้ในคำๆ เดียวเท่านั้น และแค่ติดสติ๊กเกอร์เอาไว้ที่ป้ายไฟที่วางหน้าร้านจุดเดียว ล่าสุด ได้ลอกสติกเกอร์คำว่าปังชาออกแล้ว

น้ำแข็งไสราดชาไทย ยังขายได้ ไม่ละเมิดสิทธิ์ใคร

ขณะที่ กรมทรัพย์สินทางปัญญา โพสต์ชี้แจงความแตกต่างระหว่าง ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร และเครื่องหมายการค้า

กรณี ปังชาร้านดัง ได้จดสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ไว้ ดังนั้น เมนูน้ำแข็งไสราดชาไทย ใครก็ขายได้ แต่อย่านำลวดลายหรือแบบภาชนะ ที่คนอื่นจดสิทธิบัตรไว้ไปใช้ และไม่ควรใช้รูปแบบฟอนต์ที่ชวนให้นึกถึงแบรนด์นั้นๆ ดังนั้น การใช้คำว่า ปังชา กับเมนูน้ำแข็งไสราดชาไทย ยังทำต่อไปได้ ไม่ถือเป็นการละเมิดเครื่องหมายการค้า

ทนาย ยืนยัน“ปังชา” ไม่ใช่ของใคร ทุกคนใช้ค้าขายได้

เช่นเดียวกับ เพจ ดร.พีรภัทร ฝอยทอง ทนายความและที่ปรึกษากฎหมาย โพสต์สรุปคำว่า “ปังชา” ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ไม่ได้มีการจดไว้เป็นเครื่องหมายการค้าของใคร ส่วนที่ร้านดังจดไว้ คือ รูปภาพหรือโลโก้ ซึ่งได้สละสิทธิคำว่า “ปังชา” ไว้แล้ว ดังนั้น เรื่องฟ้องร้องเรียก 102 ล้านบาท จึงไม่น่าจะเรียกร้องได้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง