วันนี้ (30 ส.ค.66) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่อทางอาชญากรรม นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ดำเนินคดีกับอธิบดีกรมศุลกากร เจ้าหน้าที่ศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง และพวก กรณีร่วมกันทำกันเป็นขบวนการปล่อยปละละเลยให้มีการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน โดยการสำแดงเท็จ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7ตุลาคม 2565 ตำรวจ บก.ปคบ. เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ และกรมศุลการกร ได้เข้าตรวจค้นจับกุมห้องเย็นแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาคร พบว่ามีเนื้อหมูเถื่อน 13 รายกาน จำนวน 1 ตู้คอนเทนเนอร์ ที่สำแดงเท็จว่าเป็นเม็ดพลาสติก มูลค่าความเสียหาย 21 ล้านบาท ซึ่งจากการจับกุมครั้งนั้น ก็ได้มีการขยายผลไปตรวจยึดเนื้อหมูเถื่อนได้อีก 3 ตู้คอนเทนเนอร์
จากการตรวจสอบเอกสารการนำเข้าพบว่ามีการสำแดงเท็จ โดยนำเข้ามาทางท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ซึ่งกรณีดังกล่าวทางอธิบดีกรมศุลกากรรู้อยู่แล้วว่ามีการกระทำความผิด แต่กลับไม่ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน เพื่อลงโทษเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวทำเป็นกระบวนการตั้งแต่เจ้าหน้าที่รัฐ นายทุน และบริษัทชิปปิ้ง ที่ต้องดำเนินคดีขุดรากถอนโคน
จึงมาแจ้งความดำเนินคดี กลับอธิบดีกรมศุลกากรและพวก ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 3 ข้อหา คือ มาตรา 154 เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าเรียกเก็บหรือตรวจสอบภาษีอากร ค่าธรรมเนียม หรือเงินอื่นใด โดยทุจริตเรียกเก็บหรือละเว้นไม่เรียกเก็บภาษีอากรหนือค่าธรรมเนียม , มาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงาน ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และมาตรา 162 เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสาร หรือกรอกข้อความลงในเอกสาร อันเป็นเท็จ
นอกจากคดีนี้ ยังมีอีกคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังดำเนินคดี ขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนจำนวน 161 ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งพบว่าภายในปี 2565 มีการนำเข้าหมูเถื่อนกว่า 1,000 ตู้คอนเทนเนอร์ สร้างความเสียหายไปแล้วกว่า 75,000 บาท ส่งผลเสียหายให้แก่เกษตรกรฟาร์มเลี้ยงหมูรายย่อยอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ยังพบว่ามี สส.สังกัดพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล (สส.จังหวัดราชบุรี) มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการค้าหมูเถื่อนด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานสาวให้ถึง และยอมรับว่าที่ผ่านมามีความพยายามที่จะใช้อำนาจฝ่ายการเมืองวิ่งเต้นล้มคดี แต่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีไม่เล่นด้วย
