วานนี้ (29 ส.ค.66) นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร สส.ระยองของพรรคก้าวไกลที่มีชื่อในเรื่อง สส.บัญชีรายชื่อแล้วมาเป็นเขต ว่า ในรัฐธรรมนูญระบุว่าเมื่อกกต.ประกาศผลการเลือกตั้งไปแล้ว ก็ให้สิ้นสุดความเป็นผู้สมัคร นั่นหมายถึงว่าผู้สมัครสามารถไปสมัครรับเลือกตั้งได้ ถ้ามีการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง
แต่ ณ วันสมัครก็ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนด โดยทุกคนที่อยู่ในบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรค ตอนนี้ไม่มีสถานะเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง แต่ก็ยังเป็นผู้ที่อาจจะถูกเรียกให้เป็นผู้แทนราษฎรได้ ถ้าอยู่ในลำดับถัดไป ดังนั้น ผู้สมัครสส.พรรคก้าวไกลที่จ.ระยองสามารถสมัครรับเลือกตั้งได้ เนื่องจากเจ้าตัวไม่แสดงเจตจำนงที่จะไม่รับตำแหน่งสส.ตามบัญชีรายชื่อ
ส่วนถ้าไม่ชนะการเลือกตั้ง แล้วถึงคิวสามารถเรียกได้หรือไม่นั้น นายแสวง กล่าวว่า การสละสิทธิ์ ขอถอนชื่อ หรือการไม่แสดงเจตจำนงที่จะถูกเรียกให้เป็นสส.ไม่ได้เกี่ยวกับการมารับมาสมัครรับเลือกตั้ง เพราะเมื่อคุณเป็นบุคคลธรรมดาไม่ได้มีสภาพเป็นผู้สมัครแล้วเพียงแต่ว่าหากมีตำแหน่งที่ว่าง ส่วนเมื่อถึงลำดับของตนเองแล้ว สภาจะเรียกหรือไม่นั้นเรื่องนี้ต้องสภาก็ต้องพิจารณา ซึ่งเรื่องนี้เป็นคนละประเด็นกับการลงสมัครและยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เป็นปัญหากับผู้สมัคร
ส่วนกรณีที่ผู้สมัคร สส.จ.ระยองของพรรคก้าวไกล เรื่องการไม่เสียภาษีย้อนหลัง 3 ปีนั้น เบื้องต้นทราบว่าการเสียภาษีไม่ใช่เป็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามแต่เป็นเงื่อนไขของการสมัคร ถ้าไม่เสียภาษีก็ต้องยื่น ว่าตนเองไม่ใช่เป็นผู้ต้องเสียภาษี ซึ่งทางผู้สมัครได้รับรองตนเองแล้ว ซึ่งขณะนี้เป็นผู้สมัครทำถูกต้องตามกระบวนการและรูปแบบสำนักงานกกต.แล้ว
ส่วนที่สังคมสงสัยว่าอาจจะหลบเลี่ยงภาษีหรือไม่นั้น นายแสวง กล่าวว่า เป็นคนละประเด็นกันเรื่องของเสียภาษีเป็นเรื่องของกรมสรรพากร แต่ในกรณีนี้ได้ทำตามแบบในการสมัครเลือกตั้ง ซึ่งถ้าสรรพากรมีการตรวจสอบอาจจะย้อนกลับมาที่กกต.หรือไม่นั้น ก็ต้องไปดูว่าผลเป็นอย่างไร ไม่อยากพูดถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น
แต่วันนี้ ผู้สมัคร สส. ได้ทำครบถ้วนตามกระบวนการของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส่วนคดีที่เกี่ยวกับทรัพย์ หรือคดียักยอกทรัพย์นั้น ชั้นพนักงานสอบสวนไม่ได้สั่งฟ้องก็ถือว่าจบไป