ทางการของรัฐฮาวายได้รายงานยอดผู้เสียชีวิตจากไฟป่าเกาะเมาอีอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 93 รายแล้ว และยังคาดว่า อาจจะมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นอีก หน่วยงานของสหรัฐฯ ระบุ นับเป็นไฟป่าที่รุนแรงที่สุดอันดับที่ 5 ในประวัติศาสตร์ของประเทศ และเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 1918
โดยหน่วยงานรัฐฯ กล่าวว่า เหตุไฟป่าที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ถือเป็นเหตุไฟป่าที่มีความรุนแรงมากที่สุดในรอบกว่า 100 ปี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 93 ราย โดยที่เมืองลาไฮนา ไฟป่าได้เผาทำลายพื้นที่ไปราว 85% หรือราว 2,170 เอเคอร์ ซึ่งในขณะนี้ การค้นหาและกู้ภัยยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง
โดยที่เมาอินั้น ไฟป่าได้เผาทำลายสิ่งปลูกสร้างกว่า 2,200 แห่ง มูลค่าความเสียหายเกือบ 6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ยังไม่นับสิ่งปลูกสร้างหรือจุดสำคัญ ๆ ทางประวัติศาสตร์ของเมืองที่ได้รับความเสียหาย ประชาชนกว่า 1,400 คนยังคงต้องอาศัยอยู่ในศูนย์อพยพ ในขณะที่ยอดผู้สูญหายยังคงสูงถึง 1,000 ราย
ส่วนที่เมืองอัปคันทรีย์-คูลา ไฟป่าได้เผาทำลายไปราว 60% หรือคิดเป็นพื้นที่ราว 678 เอเคอร์ ส่วนในพื้นที่เมืองปูเลฮูและคิเฮอิในขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว
ประชาชนไม่พอใจการเตือนภัย
จากเหตุไฟป่าที่เกิดขึ้น ประชาชนจำนวนมากยังคงตั้งคำถามถึงมาตรการในการแจ้งเตือนภัยของเกาะเมาอิ ที่ไม่ได้มีการแจ้งเตือนใด ๆ ให้กับประชาชน และมองว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่พร้อมสำหรับการรับมือกับไฟป่าในครั้งนี้
ทางด้านของอัยการสูงสุดของรัฐฮาวายระบุว่า จะมีการตรวจสอบสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับระบบสัญญาณเตือนภัยและการแจ้งเตือนต่าง ๆ อย่างไรก็ตามในขณะนี้ เจ้าหน้าที่จำนวนมากยังคงมุ่งไปที่การให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นหลัก
นอกจากนี้ สมาชิกวุฒิสภาของฮาวาย ได้ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้ส่งผลกระทบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และจำเป็นที่จะต้องรับมือกับภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น ซึ่งเราได้เห็นสิ่งเหล่านี้บ่อยขึ้น มีความเสียหายมากขึ้น และนั่นเกิดขึ้นทั่วโลก