กิจกรรมวันแม่เปลี่ยนไป “งดกราบ” หวั่นกระทบจิตใจเด็ก

ปีนี้มีหลายโรงเรียน เริ่มปรับเปลี่ยนกิจกรรมวันแม่ บางโรงเรียนไม่มีกิจกรรมการกราบแม่ แต่ยังคงกิจกรรมถวายพระพรและเปิดพื้นที่ให้นักเรียนได้แสดงความสามารถอย่างสร้างสรรค์

ขณะที่กลุ่มครูขอสอน ชวนสังคมทบทวนกิจกรรม “กราบแม่” เพราะเป็นการแสดงออกความรักดาบสองคม ห่วงกระทบจิตใจเด็ก เนื่องจากหลายคนอยู่ในสถานะ ครอบครัวหย่าร้าง

กิจกรรมวาดภาพระบายสี ทำการ์ดอวยพร เป็นกิจกรรมของนักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนเทศบาล 1 เพื่อมอบเป็นของขวัญให้แม่ในวันแม่แห่งชาติปีนี้ ทดแทนการกราบแม่ที่โรงเรียน

เป็นปีแรกที่โรงเรียนปรับรูปแบบกิจกรรม แต่กิจกรรมอื่นๆยังคงเดิม ผู้อำนวยการโรงเรียน บอกว่า นักเรียนที่นี่เป็นประชากรแฝงไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ต้องปรับกิจกรรมเชิญแม่มากราบไหว้ที่โรงเรียน เข้าใจถึงความแตกต่างของแต่ละครอบครัว

ขณะที่ความคิดเห็นของนักเรียนส่วนหนึ่ง ที่เคยเข้าร่วมกิจกรรมกราบแม่ที่โรงเรียน สะท้อนว่า เห็นด้วยกับการปรับเปลี่ยนรูปแบบ กิจกรรมวันแม่ ที่ไม่เชิญแม่มาโรงเรียน

อีกหนึ่งโรงเรียนที่กลายเป็นไวรัลทั่วโลกออนไลน์ คือ โรงเรียนมหาไถ่ศึกษาขอนแก่น จัดให้นักเรียนวาดรูปและเขียนเรียงความ ส่งเข้าประกวดในหัวข้อ “แม่ของฉัน”

แต่อยากให้คุณผู้ชมดูภาพนี้ ได้รับรางวัลอันดับที่สาม แต่ชาวเน็ตเห็นต่างบอกว่า ควรได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 เพราะชอบความคิดสร้างสรรค์ของน้องน้ำปั่น นักเรียนชั้น ป.5 คนนี้

น้องวาดภาพเด็กผู้หญิง กำลังวิ่งหนีแม่ที่ถือไม้แขวนเสื้อด้วยความโกรธวิ่งไล่ตามมา พร้อมกับคิดในใจว่า “ตุยแน่” ทำให้ภาพนี้คนเข้าไปกระหน่ำกดไลค์-กดแชร์

ทีมข่าวได้พูดคุยกับน้องน้ำปั่น ยืนยันว่าภาพที่วาดไม่ได้มาจากชีวิตจริง ตอนที่วาดรูปคุณพ่อคุณแม่ก็รู้เห็นทุกอย่าง ใช้เวลาวาดภาพตั้งแต่ 10 โมงเช้าไปจนถึง 5 ทุ่ม

ขณะที่กลุ่มครูขอสอนชวนสังคมและโรงเรียนทบทวนและตั้งคำถามถึงความสำคัญ กิจกรรม “กราบแม่” เพราะเชื่อว่าไม่ได้สะท้อน “ความกตัญญู” แต่กลับสร้างบาดแผลทางใจให้กับเด็ก ที่ไม่ได้อยู่ในครอบครัวในอุดมคติตามแบบเรียน

เนื่องจากเด็กหลายคนต้องแยกอยู่กับพ่อ-แม่ จากปัญหาหย่าร้าง สภาพเศรษฐกิจและสังคมบีบบังคับ ดังนั้นการจัดกิจกรรมกราบแม่ อาจทำให้เด็กรู้สึก แตกต่างเป็นปมในใจ จึงอยากให้เป็นวันแม่ เป็นวันที่เด็กได้เรียนรู้บทบาทและความสัมพันธ์ในครอบครัวอย่างสร้างสรรค์

เช่นเดียวกับ รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและวัยรุ่น เห็นว่ากิจกรรมวันแม่ในโรงเรียนต่างๆควรมีไว้ แต่เป็นการจัดเพื่อเทิดพระเกียรติ วันแม่ของแผ่นดิน

เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ เป็นพื้นที่ให้เด็กแสดงความสามารถเชิงสร้างสรรค์ แต่จัดกิจกรรม “กราบแม่” เร้าอารมณ์สร้างดราม่าให้เด็กอ่อนไหว ควรยกเลิกได้แล้ว เพราะสังคมไทยเปราะบางมากขึ้นกิจกรรมดังกล่าวอาจสร้างความเครียด ทำให้เด็กเป็นโรคซึมเศร้าได้