“วิโรจน์” ลั่น “ก้าวไกล” โหวตตามเสียงหัวใจของประชาชน ปิดประตูเผด็จการสืบทอดอำนาจ ชี้เป็นไปได้สูง “เพื่อไทย” ดึง “2 ลุง” ร่วมรัฐบาล
วันนี้ (10 สิงหาคม 2566) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Wiroj Lakkhanaadisorn – วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ดังนี้ เราจะโหวตตามเสียงหัวใจของประชาชน ผู้เป็นเจ้าของพรรค และจะไม่ยอมเปิดประตูให้เผด็จการได้เข้ามาร่วมรัฐบาลสืบทอดอำนาจ อย่างแน่นอน
ยังไงก็แล้วแต่ การโหวตของก้าวไกล จะต้องเป็นการโหวตที่ตรงกับเสียงหัวใจของประชาชนอย่างแน่นอนครับ จะโหวตยังไง หลักๆ วิธีคิด ก็คงจะมีกรอบคร่าวๆ ประมาณนี้ครับ
1) 312 เสียงเดิม นั้นมีความชอบธรรมที่จะขอเสียง สส. จากพรรคอื่นที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาลมาโหวตให้นะครับ เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปตามฉันทานุมัติของประชาชน ป้องกันไม่ให้ สว. เข้ามาแทรกแซงเสียงของประชาชน
แต่สำหรับกรณี 212 เสียง หรือ 238 เสียงก็ตาม พรรคก้าวไกลไม่มีความชอบธรรมที่จะโหวตให้เลย เพราะถ้าก้าวไกลโหวตให้ ก็เท่ากับก้าวไกลกำลังละเลยเสียงของประชาชน และยอมจำนนให้ สว. ที่เผด็จการเลือกมา ให้เข้ามาแทรกแซงอำนาจของประชาชน
2) ที่ห่วงกันว่า ถ้าก้าวไกลไม่โหวตให้ เพื่อไทยจะอ้างเอามาเป็นเหตุจำเป็น ที่ต้องดึงลุงมาร่วมรัฐบาลได้โดยทันที ผมไม่เชื่อว่าเพื่อไทยจะอ้างแบบนั้นครับ เพราะเหตุผลฟังไม่ขึ้น ต่อให้ก้าวไกลโหวตให้ รัฐบาลเสียงข้างน้อย 238 เสียง ก็ไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดินได้อยู่ดี และ ภจท. ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลเสียงข้างน้อย ต่อให้ก้าวไกลโหวตให้ เพื่อไทยก็ต้องไปดึงเอาพรรคอื่นมาร่วมเพิ่มเติม ถ้าเพื่อไทยเอา ปชป. มาร่วม รัฐบาลก็จะมี 263 เสียง แต่จะอธิบายกับคนเสื้อแดงยังไง ที่ผ่านมากับ “การกระชับพื้นที่” และ “เขตการใช้กระสุนจริง” ที่ล้อมปราบจนคนเสื้อแดงล้มตายไป 99 ศพ เพื่อไทยจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับคนเสื้อแดงต่อไปยังไง
และต้องยอมรับตรงๆ ครับว่า ต่อให้ ปชป. มาร่วม รัฐบาล 263 เสียง เสียง มันก็ปริ่มน้ำมาก รัฐบาลที่มีเสียงแค่นี้บริหารราชการแผ่นดินไม่ได้หรอกครับ จึงเป็นไปได้สูงมาก ที่สักพักเพื่อไทยจะต้องไปดึงเอา รทสช. กับ พปชร. มาร่วมรัฐบาลด้วย โดยอ้างว่าเพื่อทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ ไม่ว่า รทสช. หรือ พปชร. จะมากันแบบทั้งพรรค หรือจะใช้ลูกกะล่อนทยอยกระจายกันมา หรือจะอ้างว่าลุงไม่อยู่แล้ว ลุงไปอยู่หลังม่านแล้ว จะใช้ลูกเล่นอะไรก็แล้วแต่ ประชาชนเขามองออกครับ เพราะคำว่า “ลุง” ของประชาชน ไม่ใช่แค่ตัวบุคคล แต่เป็น “ระบบ และองคาพยพที่เผด็จการใช้สืบทอดอำนาจ” ถ้าก้าวไกลโหวตให้ แล้วเพื่อไทยไปเอาลุงมาร่วมรัฐบาลในภายหลัง ก้าวไกลรับผิดชอบกับความผิดหวังของประชาชนไม่ได้หรอกครับ
3) ที่ห่วงกันว่า ถ้าก้าวไกลไม่โหวตให้ เพื่อไทยจะอ้างว่า เพื่อไทยก็ไม่มีทางเลือก จึงต้องไปร่วมกับ รทสช. และ พปชร. ผมคิดว่าไม่ต้องกังวลเลยครับ เพราะเพื่อไทยมีทางเลือกที่จะกลับมายืนที่ 312 เสียงกับ 8 พรรคร่วมได้เช่นเดิม ถ้าเพื่อไทยอ้างอย่างที่ว่าข้างต้น แล้วดอดไปร่วมกับ รทสช. หรือ พปชร. ก็แสดงว่าเพื่อไทย เขาเลือกที่จะไปร่วมกับ รทสช. หรือ พปชร. เอง ไม่ใช่ว่าไม่มีทางเลือกครับ
ถ้าเลือกที่จะกลับมายืนที่ 312 เสียง อย่างมั่นคง พวกเราก็มีโอกาสที่จะขยับให้กลายเป็น 376 เสียงได้ จากแรงหนุนของประชาชนที่มีต่อ สว. และนับวัน สว. มีแต่จะนับถอยหลังสู่วันสิ้นอำนาจ สุดท้ายสถานการณ์ต่างๆ จะจูงใจให้เกิดการพูดคุยกัน เพื่อจัดตั้งรัฐบาลที่เป็นความหวังของประชาชนได้สำเร็จ ปิดประตูการสืบทอดอำนาจของเผด็จการ แย่ที่สุดก็ 11 พ.ค. 67 312 เสียงก็จะชนะด้วยตัวของมันเอง ซึ่งตอนนี้เหลือแค่ 9 เดือน ไม่ใช่ 10 เดือนแล้วนะครับ แว้บๆ ก็ผ่านมาแล้ว 1 เดือนแล้ว ขอ 312 เสียงจับมือกันให้แน่น ฝ่ายลุงที่รวมเสียงได้แค่ 188 เสียง ถ้าไม่มีใครยอมไปเป็นนั่งร้านให้เผด็จการสืบทอดอำนาจ ลุงไม่มีทางตั้งรัฐบาลได้แน่
ในขณะที่ 212 หรือ 238 เสียง ที่เพื่อไทยกำลังทำอยู่ นั้นแพ้ด้วยตัวของมันเองตั้งแต่แรก เพราะถ้าเอา ปชป. มาร่วมเป็น 263 เสียง ก็จะผิดต่อมโนสำนึกที่มีต่อคนเสื้อแดง แถม 263 เสียงก็ยังปริ่มน้ำมาก สุดท้ายไม่แคล้วต้องไปเอาสองลุงมาร่วมอยู่ดี เป็น 339 เสียง ก็ยังต้องไปพึ่ง สว. อยู่ดี แล้วเราก็รู้อยู่แก่ใจว่า สว. จำนวนมาก เขามีลุงเป็นเจ้าของ ลุงคือคนที่สั่ง สว. ได้ สุดท้ายถ้าจะให้ สว. ยกมือให้ ตำแหน่งนายก ก็จะต้องถูกบีบคอยกให้ลุง การหักหลังประชาชน และยอมเป็นนั่งร้านให้กับเผด็จการสืบทอดอำนาจที่แสนอัปยศแบบนี้ ก้าวไกลเรายอมให้มันเกิดขึ้นไม่ได้หรอกครับ
สถานการณ์ในวันนี้ พิสูจน์แล้วว่า 112 เป็นเพียงแค่ข้ออ้างของพวกมัน คำพูดที่บอกว่า “ถ้าไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล แล้ว สว. จะโหวตให้” ก็เป็นเรื่องหลอกลวงทั้งเพ เป็นอุบายที่พวกมันเอาอำนาจมาล่อให้ทิ้งเพื่อน
รู้อย่างนี้แล้ว จะไปหลงเชื่อคำพูดของพวกมันให้ถลำลึกลงไปอีกทำไม
สำหรับการโหวตของก้าวไกล ผมคิดว่าเพื่อไทยไม่จำเป็นต้องมาขอขมาอะไรเลยครับ เป็นเพื่อนกันแค่มาพูดคุยกันด้วยความจริงใจ ก็ดีใจแล้ว แต่ผมคิดว่าคนที่เพื่อไทยควรจะคุยด้วยมากที่สุดในตอนนี้ คือ “ประชาชน” โดยเฉพาะ “คนเสื้อแดง” ที่เป็นเพื่อนแท้ที่สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเพื่อไทยมาเกือบ 20 ปี
ประชาชนต้องการการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาว่า ทำไมก้าวไกลต้องยอมยกมือให้ ทำไมประชาชนต้องยอมจำนนต่อ สว. ที่เผด็จการเลือกมา รัฐบาลที่เพื่อไทยกำลังจะผลักดันให้เกิดขึ้น จะมี ปชป. พปชร. หรือ รทสช. ร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่ คำว่า “สลายขั้ว” ที่เพื่อไทยพูด หมายถึงอะไร ผมเชื่อว่าประชาชนไม่ต้องการเห็นเพื่อไทย กับก้าวไกลไปคุยอะไรกันแบบงุบงิบ ซุบซิบหรอกนะครับ แต่ต้องการให้เพื่อไทยพูดกับประชาชน เป็นการสาธารณะมากกว่า ซึ่งไม่ต้องห่วงครับ ก้าวไกลเราก็จะฟังสิ่งที่เพื่อไทยพูดกับประชาชนไปพร้อมๆ กันด้วยครับ เพราะการตัดสินใจของก้าวไกล ยังไงก็ต้องตรงกับเสียงหัวใจของประชาชน
ขอยืนยันให้ทุกท่านสบายใจว่า การโหวตของก้าวไกล จะต้องไม่เป็นการเปิดประตูให้เผด็จการ ฉวยเป็นโอกาสเข้ามาร่วมรัฐบาล เพื่อสืบทอดอำนาจ อย่างแน่นอนครับ การโหวตของก้าวไกล เราจะรับฟังเสียงของประชาชนอย่างรอบคอบ รอบด้านแน่ๆ
ก้าวไกลเราตระหนักดีว่า “เจ้าของพรรคก้าวไกล” ที่แท้จริง คือ “ประชาชน” ประชาชนไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้สนับสนุนพรรคอีกต่อไป ในภายภาคหน้า หากมีความอยุติธรรมใดๆ เกิดขึ้นกับก้าวไกล ประชาชน ผู้เป็นเจ้าของพรรคนี่ล่ะครับ ที่จะเป็นคนที่ยืนเคียงข้าง และคอยปกป้องพวกเรา ดังนั้นการโหวตของก้าวไกล จะเป็นไปตามความประสงค์ของประชาชน ผู้เป็นเจ้าของพรรค อย่างแน่นอนครับ
พรรคใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค เสมอครับผม