คัดลอก URL แล้ว
“เสรีพิศุทธ์” วอน ปชช. ใจกว้าง เปิดทางให้พรรค 2 ลุง เปรียบเปรย “สามก๊ก” เมื่อไม่มีแม่ทัพ ก็ต้องเลี้ยงดูพลไพร่มาใช้ทำประโยชน์ และปิดทางนายกฯคนนอก

“เสรีพิศุทธ์” วอน ปชช. ใจกว้าง เปิดทางให้พรรค 2 ลุง เปรียบเปรย “สามก๊ก” เมื่อไม่มีแม่ทัพ ก็ต้องเลี้ยงดูพลไพร่มาใช้ทำประโยชน์ และปิดทางนายกฯคนนอก

พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้กล่าวขณะที่มีการแถลงร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับ 6 พรรค โดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ว่า หลังจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว พรรคก้าวไกลมีคะแนนเสียงอันดับ1 ก็ได้มีมติกันว่าให้พรรคก้าวไกลบริหารประเทศและทำทุกอย่าง แต่ปรากฎว่าพรรคก้าวไกลไม่สามารถเดินไปสู่จุดนั้นได้ จึงเปลี่ยนให้พรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ในการจัดการบริหารประเทศ โดยเสนอชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีแทน ขณะนี้พรรคเพื่อไทยกำลังดำเนินการ วิธีการ ในการสลายขั้วการเมืองทุกฝ่าย เพื่อเดินหน้าบริหารประเทศให้ได้ ตนจึงขอวิงวอนให้ประชาชนได้เข้าใจว่า ขณะนี้มีการเข้าใจผิดว่า คำพูดตอนหาเสียงเคยพูดไว้อย่างไร ก็ต้องยึดมั่นนั้น ตนอยากบอกว่าเป็นเพียงแค่คำพูดในการหาเสียงเท่านั้น เพื่อให้ได้คะแนนเสียงมาบริหารประเทศ ไม่ใช่นโยบายพรรคแต่อย่างใด ซึ่งหากเป็นนโยบายพรรคที่เคยพูดไว้แล้วไม่ทำ จึงจะถือว่าผิดสัญญา แต่การหาเสียงที่เคยได้พูดไว้ไม่ใช่นโยบาย ตนจึงมองว่าเป็นเรื่องปกติ

ขณะที่บางเสียงมีข้อจำกัดให้เลือกรวมแค่บางพรรค แต่ไม่เอาบางพรรคนั้น ตนอยากแนะนำให้ไปดูสามก๊ก หรือไปดูประวัติศาสตร์ชาติไทย ในสมัยอดีตในการทำศึกสงครามต่างๆ ถ้าฆ่าแม่ทัพตายแล้ว เราจะเลี้ยงดูพลไพร่ต่อไปหรือไม่ เช่น เอามาปลูกข้าวดำนา หรือจะฆ่าทิ้งให้หมด อย่างเช่นพรรครวมไทยสร้างชาติ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ลาออกไปแล้ว ไม่มีแม่ทัพแล้ว เราควรจะดึงพลไพร่มาหรือไม่ ซึ่งบางคนบอกว่าไม่ควรเลี้ยงดู แต่ตนมองว่าควรจะเลี้ยงดูไว้ หรือพรรคพลังประชารัฐ ที่แม่ทัพยังอยู่ แต่ก็ยอมแพ้ไปแล้ว เราจะเอาพลไพร่มาเลี้ยงดูหรือไม่ ก็ฝากเป็นข้อคิดให้ประชาชนว่าควรเปิดใจให้กว้าง เพื่อสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลให้ได้

ทั้งนี้ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกับสื่อมวลชนถึงกรณีเรื่องที่อยากให้ประชาชนใจกว้าง เพราะคิดว่าประชาชนน่าจะรู้ปัญหาของประเทศชาติดีว่าถูกกำกับด้วยรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ถ้าเป็นไปตามปกติไม่มี สว.มายุ่งเกี่ยว มีเฉพาะสภาผู้แทนราษฎร ก็คงจะจัดตั้งรัฐบาลไปแล้ว แต่เมื่อมี สว.เข้ามาเกี่ยวข้องที่จะให้ความเห็นชอบในการโหวตนายกฯ ได้ จึงเป็นข้อจำกัดของพรรคการเมืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพรรคก้าวไกล เพื่อไทย หรือพรรคอื่นๆ ดังนั้นถ้าประชาชนเข้าใจในส่วนนี้ อยากให้ประเทศเดินหน้าได้ และมีรัฐบาลบริหารประเทศโดยเร็ว ก็ขออย่าเอาอะไรมาล็อคไว้ให้มากจนการจัดตั้งรัฐบาลเดินหน้าไม่ได้ รวมถึง สว.ด้วย อยากให้ช่วยกันคิดเพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้

พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ตอนนี้มีบุคคลนำข้อมูลมาโจมตีนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ฟังดูแล้ว ก็เห็นว่าไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร เป็นเรื่องของผู้ขายที่ดิน เข้าใจว่าผู้ขายก็ต้องการให้เสียภาษีน้อย ดังนั้นมองว่าเรื่องของผู้ขายไม่เกี่ยวกับผู้ซื้อ นายเศรษฐาก็ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย และเมื่อไม่ได้ทำผิดกฎหมายจะผิดจริยธรรมตามที่มีการกล่าวอ้างได้อย่างไร จึงไม่อยากให้ยกเรื่องดังกล่าวมาโจมตีนายเศรษฐา

กรณีที่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ มองว่าประโยค “ไล่หนูตีงูเห่า” ของพรรคเพื่อไทยเป็นเพียงการหาเสียงไม่ใช่นโนบายที่ต้องทำตามสัญญา จะส่งผลทำให้ความน่าเชื่อถือต่อการจัดตั้งรัฐบาลลดลงหรือไม่ เพราะเป็นเหมือนการพูดกลับไปกลับมา พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ชี้แจงว่า ไม่ใช่การพูดกลับไปกลับมา เป็นเรื่องของการหาเสียงเท่านั้น ก็ต้องอ่อนตัวไปตามสภาพการณ์ เมื่อไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็อีกเรื่อง แต่เมื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับนี้พรรคก้าวไกลก็จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เพราะแข็งเกินไป และเพื่อไทยจะจัดได้หรือไม่ สมมติว่าไม่ได้ พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ จะได้หรือ? เมื่อไม่ได้จะต้องทำอย่างไร จะต้องเอาคนนอกเข้ามาตามมาตรา 272 วรรค 2 หรือ และคนนอกจะเป็นใคร และการจะเป็นนายกฯ ได้จะผ่านอีก 500 เสียงในสภา จะไม่ยากกว่าเดิมไปอีกหรือไม่ ดังนั้นถ้าอยากให้บ้านเมืองขับเคลื่อนไปได้ต้องช่วยกันสนับสนุน ถ้าไม่ช่วยกัน อาจจะเดินไปสู่จุดที่ต้องเอานายกฯ คนนอกเข้ามา และถ้านายกฯ คนนอกไม่ได้อีก จะต้องปิดตายประเทศเลยหรือไม่


ข่าวที่เกี่ยวข้อง