คัดลอก URL แล้ว
“วนรัชต์” ย่องเงียบเข้ารับทราบข้อหาโกงหุ้นสตาร์ค

“วนรัชต์” ย่องเงียบเข้ารับทราบข้อหาโกงหุ้นสตาร์ค

“วนรัชต์” ย่องเงียบเข้ารับทราบข้อหาโกงหุ้นสตาร์คกับดีเอสไอแล้ว ปฏิเสธข้อหาขอส่งหนังสือแก้ข้อกล่าวหา ด้าน ‘พ.ต.ต.ยุทธนา’ หน.ชุดสอบสวน เผย เอกสารแต่งตั้งหน้าที่บอร์ดในบริษัท สวนทางกับพฤติการณ์

กรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ให้ดำเนินคดีกับบุคคลและนิติบุคคลจำนวนทั้งสิ้น 10 ราย ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องทุจริตทางการเงินของ บริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยที่ผ่านมาคณะพนักงานสอบสวน กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน ได้ดำเนินการออกหมายเรียกผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ, นายชินวัฒน์ อัศวโภคี, นายกิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐงาม ส่วนหมายจับทั้งหมด 3 ราย ประกอบด้วย นายชนินทร์ เย็นสุดใจ, นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ, น.ส.ยสบวร อำมฤต ซึ่งในจำนวนนี้มีเพียงนายศรัทธา และ น.ส.ยสบวร ที่เข้ารับทราบข้อกล่าวหาและให้การปฏิเสธ พร้อมขอยื่นเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาในภายหลัง ส่วนนายวนรัชต์ ภายหลังการออกหมายเรียกผู้ต้องหาได้ขอเลื่อนนัดหมายอ้างเหตุป่วย โดยมีใบรับรองแพทย์ประกอบแจ้งมายังพนักงานสอบสวน ขณะที่กรณีของนายชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตประธานกรรมการบริษัทสตาร์คฯหลบหนีหมายจับ ดีเอสไอได้ประสานไปยังองค์การตำรวจสากล หรือ อินเตอร์โพล เพื่อดำเนินการออกหมายน้ำเงิน ขอความร่วมมือตำรวจสากลทั่วโลกตามหาถิ่นที่อยู่ของผู้ต้องหา เพื่อนำตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดี และประสานไปยังกรมการกงสุล ยกเลิกหนังสือเดินทางแก่นายชนินทร์ ตามที่มีการรายงานข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (1 ส.ค.) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ และในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีหุ้นสตาร์ค เปิดเผยว่า นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากก่อนหน้านี้เลื่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับดีเอสไอโดยอ้างเหตุผลป่วยพร้อมแนบใบรับรองแพทย์ให้กับพนักงานสอบสวน โดยนายวนรัชต์ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนและรับทราบข้อกล่าวหาในความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนพร้อมรับทราบประเด็นข้อกล่าวหาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปตามที่สำนักงานคณะกรรมกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร้องทุกข์กล่าวโทษไว้กับดีเอสไอ ขณะที่นายวนรัชต์ปฏิเสธทุกข้อหา ก่อนนัดหมายขอส่งเป็นหนังสือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาในภายหลัง ซึ่งพฤติการณ์ระหว่างนายวนรัชต์ และนายชนินทร์ อาจจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ก็มีลักษณะเข้าข่ายร่วมกันฉ้อโกงเช่นเดียวกัน และไม่จำเป็นที่ทุกคนในเรื่องนี้จะต้องกระทำเหมือนกัน หาก ก.ล.ต. เล็งเห็นว่าบุคคลใดมีส่วนรู้เห็นด้วยกันอย่างไร หรือมีพฤติการณ์การแบ่งหน้าที่กันทำ ก็ย่อมเข้าองค์ประกอบได้ ดังนั้น เมื่อมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ดีเอสไอในฐานะบังคับใช้กฎหมายและสอบสวน ก็มีหน้าที่จะต้องสอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงให้ยุติ

พ.ต.ต.ยุทธนา เผยอีกว่า ประเด็นที่ ก.ล.ต. ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษทั้ง 10 รายต่อดีเอสไอ เมื่อบุคคลหรือนิติบุคคลเข้ารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมขอชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา จากนั้นพนักงานสอบสวนก็จะต้องดูว่าผู้ต้องหามีการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาอย่างไรบ้าง ยกตัวอย่าง นายวนรัชต์อาจจะชี้แจงว่าได้ปล่อยให้นายชนินทร์เป็นผู้บริหารจัดการเรื่องใดๆ ดีเอสไอก็ต้องพิสูจน์ว่าเป็นไปตามที่ผู้ต้องหาชี้แจงหรือไม่ หรือเจ้าตัวได้รับประโยชน์ใดจากการมอบอำนาจดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งดีเอสไอต้องใช้เวลาในการรวบรวมคำให้การต่างๆ ไปพิจารณาประกอบกับพยานหลักฐานอีกหลายส่วน เพื่อให้ปรากฏข้อเท็จจริงที่เป็นธรรมต่อทุกคนที่สุด

เมื่อถามถึงเรื่องพยานเอกสารเพิ่มเติมซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับโครงสร้างและหน้าที่รับผิดชอบของบุคลากรผู้บริหารของแต่ละบริษัทที่เกี่ยวข้อง รวมถึงหนังสือจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อตรวจสอบว่าในช่วงระหว่างการเกิดเหตุ ใครเป็นผู้ลงนาม กรรมการบริษัทในขณะนั้นมีใครบ้าง และวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งและดำเนินงานของบริษัท ดีเอสไอได้รับครบถ้วนแล้วหรือไม่นั้น พ.ต.ต.ยุทธนา เผยว่า คณะพนักงานสอบสวนได้รับข้อมูลดังกล่าวครบเรียบร้อยแล้ว และทราบว่ามีบุคคลใดเกี่ยวข้องและทำหน้าที่อะไรบ้างในช่วงเกิดเหตุ และแม้ว่าตัวหนังสือลายลักษณ์อักษรจะปรากฏข้อมูลใดก็ตาม แต่พนักงานสอบสวนไม่ได้มองเเค่เนื้อหาสาระ ต้องพิจารณาตามความเป็นจริง เพราะตัวเอกสารกับพฤติการณ์จริงมันมีความแตกต่างกันอยู่ บางช่วงบางตอนในหนังสือมีการแต่งตั้งให้ใครทำหน้าที่ใด แต่ความเป็นจริงกลับไม่ตรงกัน บางคนอาจจะรู้เรื่องทั้งหมด ดำเนินการเองทั้งหมด หรือบางคนอาจจะรู้เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น

ทั้งนี้ พ.ต.ต.ยุทธนา เผยอีกว่า ในวันพุธที่ 2 ส.ค. คณะพนักงานสอบสวนจะมีการประชุมหารือถึงความคืบหน้าทางคดี ทั้งในส่วนของเนื้อหาภายในสำนวน ผลการสอบปากคำพยานบุคคล คำให้การของผู้ต้องหา รวมถึงแนวทางการสอบสวน การแสวงหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมหลังจากนี้อีกด้วย เพื่อให้สำนวนคดีมีความครบถ้วน

#หุ้นสตาร์ค #หุ้น #ตลาดหุ้น #Set #เศรษฐกิจ #ข่าววันนี้ #mononews


ข่าวที่เกี่ยวข้อง