วันนี้ (21 ก.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย ตัวแทนจาก 8 พรรคร่วมรัฐบาลได้แถลงข่าวภายหลังการหารือ หลังจากที่พรรคก้าวไกลประกาศส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำหลักในการจัดตั้งรัฐบาล
นายแพทย์ชลน่าน เปิดเผยว่า เราได้มาปรึกษาหารือร่วมกันถึงทิศทางในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐบาลของฝ่ายเสรีประชาธิปไตย ในที่ประชุมได้มีมติ 3 แนวทาง
แนวทางที่ 1 คือ ให้ในการประชุมสภาเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล ซึ่งสมควรที่ได้รับแต่งตั้ง ให้เป็นนายกรัฐมนตรี วันที่ 27 ก.ค. ที่จะถึงนี้ มีมติให้พรรคเพื่อไทย ส่งชื่อผู้สมควรที่ได้รับการแต่งตั้ง เป็นนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย โดยพรรคก้าวไกลจะเป็นผู้เสนอชื่อให้กับที่ประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อให้ได้ซึ่งรัฐบาลที่เรามีความมุ่งมั่นร่วมกันว่าจะเป็นไปตามความคาดหวังประชาชน 27 ล้านเสียง
ส่วนวิธีการที่จะได้มาซึ่งเสียงสนับสนุนที่ประชุมได้เสนอแนวทาง ให้พวกเรา 8 พรรคร่วมประกอบด้วย 312 เสียง ดำเนินการหาเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา อีก 63 เสียง ซึ่งการจะได้เสียงจากสมาชิกวุฒิสภา อาจมีเงื่อนไขที่สมาชิกวุฒิสภาได้ตั้งไว้ กรณีเกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยพรรคเพื่อไทยจะไปคุยถึงเงื่อนไขนั้น และนำมาหารือกับที่ประชุม
แนวทางที่ 2 ถ้าได้เสียงหรือไม่สามารถหาเสียงจากสมาชิกวุฒิสภาได้ไม่พอ ก็ให้สิทธิ์พรรคเพื่อไทยดำเนินการไปพูดคุยกับพรรคการเมืองอื่น ได้ตามที่พรรคเพื่อไทยเห็นสมควร เพื่อให้ได้มาซึ่งเสียงสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และให้สิทธิ์พรรคเพื่อไทยในการพูดคุย หากแนวทางของ 8 พรรคร่วมไม่เกิดขึ้น พรรคเพื่อไทยได้สิทธิดำเนินการ
แนวทางที่ 3 เป็นทางเลือกอื่นๆซึ่งหมายความว่าไม่ใช่การร่วมกันของ 8 พรรคร่วม ซึ่งอาจจะไม่มีพรรคใด พรรคหนึ่งอยู่ในสัมการนี้ ซึ่งสิทธิตรงนี้พรรคเพื่อไทยได้รับมอบจากที่ประชุมไปพิจารณาดำเนินการและนำมาปรึกษาหารือ
ด้านการพูดคุยกับ ส.ว.เพื่อลดเพดานมาตรา 112 นายชัยธวัช กล่าวว่า เราคงต้องดูรายละเอียด ในฐานะที่พรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพ เราก็ต้องให้เวลา ทางพรรคเพื่อไทยไปพูดคุยกับทางสมาชิกวุฒิสภา ว่ารูปแบบไหน ที่เรียกว่าปลดล็อคความไม่สบายใจของทุกท่าน และแนวทาง ในการจัดตั้งรัฐบาลได้ เพื่อให้พรรคก้าวไกลนำไปพิจารณาภายในพรรค อย่างไรก็ตามเป้าหมายสูงสุดที่เราอยากจะเห็น ตามเจตจำนงของพี่น้องประชาชนในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม เราอยากเห็นการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล
ภาพ – กฤติกร จิตติอร่ามกูล