นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ซ้ำไม่ได้ และถูกตีตกไป วานนี้ ว่า ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เพราะจะเป็นข้อผูกพันและผูกมัดต่อไป ซึ่งการวินิจฉัยของสภาจะเป็นข้อผูกมัดการใช้ข้อบังคับของสภาต่อไป เป็นข้อบังคับที่ผูกมัดแค่มาตรา 272 แต่ถ้านำไปใช้กับมาตรา 159 ผลผูกพันจะลดหลั่นไป แต่เรื่องดังกล่าว 8 พรรคจะดำเนินการต่อไปตาม mou โดยให้สิทธิ์พรรคก้าวไกลที่เป็นพรรคแกนนำ ขณะนี้รอให้พรรคก้าวไกลนัดประชุมอีกครั้ง เบื้องต้น เลขาธิการพรรคก้าวไกลและเพื่อไทย ได้มีการพูดคุยกันแล้ว ดังนั้นเมื่ออะไรที่ต้องปฏิบัตามข้อบังคับ ก็ปฏิบัติตามได้ทุกอย่าง
ส่วนกรณีที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ นักกฎหมาย ที่ไม่เห็นด้วยกับการวินิจฉัยเมื่อวานนี้ ถือว่าเป็นความเห็นส่วนตัว ที่สามารถให้สมาชิกที่ได้ผลกระทบตามมาตรา 243 ไปยื่นสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นสิทธิของบุคคลที่ถูกละเมิดสิทธิ จากการกระทำเมื่อวาน ที่ไม่ใช่ ส.ส. พร้อมยกตัวอย่างว่า เมื่อวานถ้าตนเองถูกละเมิดสิทธิ ก็สามารถไปยื่นได้ โดยผ่านสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เว้นแต่ผู้ตรวจการแผ่นดินไม่รับ ก็สามารถใช้สิทธิร้องตรงได้
ส่วนพรรคเพื่อไทยจะใช้เวลาเท่าไรในการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี เนื่องจากประธานสภา ได้นัดประชุมในวันที่ 27 กรกฎาคม นี้ นายแพทย์ชลน่าน ระบุว่า ต้องรอถึงวันนั้นก่อน ซึ่งพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล ต้องหารือกันโดยเร็ว เพราะการตัดสินใจเป็นของพรรคก้าวไกล ยืนยันขณะนี้เพื่อไทยยังอยู่กับพรรคก้าวไกล ตอนนี้ยังฟันธงไม่ได้ว่าจะเสนอชื่อใครชิงนายกรัฐมนตรี ต้องรอการนัดหมายว่าจะเป็นวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ก็ได้
หลายฝ่ายไม่พอใจ การทำหน้าที่ของประธานสภา
ส่วนการทำหน้าที่ของประธานสภาเมื่อวานนี้ที่มีหลายฝ่ายไม่พอใจ นายแพทย์ ชลน่าน ระบุ ไม่มีใครพอใจแม้แต่ตนเอง ซึ่งตนเองพยายามหาทางออกให้ การเสนอชื่อญัตติโดยใช้เสียงข้างมากธรรมดา ที่ไม่มีช่องทางที่ชอบด้วยข้อบังคับตนก็ไม่ยอม จึงให้เป็นอำนาจการวินิจฉัยของสภา แต่เมื่อผลออกมาเป็นเช่นนั้นก็ต้องยอมรับ ซึ่งปัญหานี้จะเป็นบทเรียนนำไปสู่การแก้ไข เพราะข้อบังคับนี้ สมาชิกรัฐสภาเป็นผู้กำหนดแต่ต้องเป็นตามหลักรัฐธรรมนูญ และเห็นด้วยที่พรรคก้าวไกลจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย อะไรที่ขัดรัฐธรรมนูญก็ต้องดำเนินการ
ส่วนที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวศ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่วิจารณ์พรรคก้าวไกลให้เป็นไปฝ่ายค้าน นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า เป็นความเห็นและเป็นสิทธิเสรีภาพ จะถือว่าเป็นความเห็นร่วมคงไม่ได้ เพราะต้องมีการพูดคุยกันใน 8 พรรคร่วมรัฐบาล พร้อมน้ำว่า เป็นความเห็นส่วนตัวของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตนไม่สามารถตอบแทนได้
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า 8 พรรคร่วมติดกระดุมเม็ดแรกผิดตั้งแต่การเลือกประธานสภา นพ.ชลน่าน กล่าวว่า แล้วแต่มุมมอง จะไปสรุปว่าผิดหรือไม่ผิดต้องดผุข้อเท็จจริง จะเอาเหตุการณ์ไหนมาวัด ก็ว่าเป็นเรื่องๆ ไป ขออย่าไปสรุปว่าผิดหรือไม่ผิดก็ลำบาก เพราะแต่ละคนมีมุมมองที่ต่างกัน ความเห็นต่างถือเป็นสีสันของระบอบประชาธิปไตย พรรคที่แพ้ก็บอกว่าคิดผิด แต่ถ้าเราชนะก็บอกว่าคิดถูก