น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกรมควบคุมโรคว่าสถานการณ์โรคไข้มาลาเรียในประเทศไทย พบผู้ป่วยเพิ่มจากสัปดาห์ก่อนหน้า 835 ราย โดยเฉพาะเกษตรกรที่มีไร่และสวน ติดกับเขตพื้นที่ป่าเขา รวมทั้งประชาชนที่ชอบเดินป่า เพราะช่วงฤดูฝนเหมาะต่อการเจริญพันธุ์ของยุงหลายชนิด เสี่ยงติดเชื้อโรคมาลาเรีย
ซึ่งมียุงก้นปล่องที่ออกหากินเวลากลางคืนเป็นพาหะนำโรค จึงแนะนำให้ประชาชนสวมเสื้อผ้าปกปิดร่างกายให้มิดชิด ใช้ยาทากันยุง หากต้องนอนค้างคืนในป่าควรกางมุ้ง จะช่วยป้องกันโรคไข้มาเลเรีย หรือไข้ป่า ไข้จับสั่นได้
สำหรับสถานการณ์โรคไข้มาลาเรีย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-7 ก.ค. 66 พบผู้ป่วยสะสม 9,255 ราย จังหวัดที่พบผู้ป่วยมากที่สุดได้แก่ ตาก รองลงมาคือแม่ฮ่องสอน และกาญจนบุรี เป็นคนไทย 4,158 ราย และต่างชาติ 5,097 ราย และพบผู้เสียชีวิต 3 ราย ที่จังหวัดตาก
โดยอาการของโรค จะมีไข้ หนาวสั่น ปวดศีรษะเป็นพักๆ ปวดเมื่อยร่างกาย อาจมีอาการคลื่นไส้ เบื่ออาหาร หากไปพบแพทย์ช้า อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะมาลาเรียขึ้นสมอง ภาวะปอดบวมน้ำ ภาวะไตวาย และเสียชีวิตได้
ซึ่งกรมควบคุมโรคแนะนำให้ผู้ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงโรคไข้มาลาเรีย 10 – 14 วัน หากมีอาการควรรีบไปพบแพทย์