การเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลของ “พรรคก้าวไกล” ซึ่งกวาดที่นั่งส.ส. มาเป็นอันดับ 1 หลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา ยังคงต้องจับตา โดยเฉพาะปมการชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ยังเป็นปมปัญหาระหว่าง 2 พรรค โดยวานนี้ ‘นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว’ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การหารือตำแหน่งประธานสภาฯ ระหว่าง 2 พรรค จะมีขึ้นช่วงเช้า วันที่ 2 กรกฎาคมนี้ ก่อนการประชุม 8 หัวหน้าพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งมั่นใจว่า จะคุยกันจนได้ข้อสรุปที่ดี พร้อมชี้แจงว่า การขอตำแหน่งประธานสภาฯ เพื่อดุลยภาพในการทำงาน ไม่ใช่การยื้อแย่ง และไม่ได้หักหลังประชาชน
“เพื่อไทย” ยอมถอย ยกเก้าอี้ประธานสภาฯ ให้ “ก้าวไกล” – “พิธา” บอกดีลยังไม่จบ เจรจาอยู่
เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (29 มิ.ย. 2566) มีรายงานจากแหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย ถึงประเด็นการหารือระหว่าง 2 พรรค เรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ ว่า ได้ข้อยุติแล้ว โดยพรรคก้าวไกลจะได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ส่วนพรรคเพื่อไทย ได้ตำแหน่งรองประธานสภาฯ 2 ตำแหน่ง บนเงื่อนไขที่ว่า ทั้ง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล จะชู ‘นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ เป็นนายกรัฐมนตรี
แต่ถ้าหากว่านายพิธา ไม่สามารถฝ่าด่าน ส.ว. ได้ พรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคก้าวไกล อยู่ช่วยพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาล ไม่แยกตัวออกไปไหน
ขณะเดียวกันคืนวานนี้ ที่อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก ‘นายพิธา’ ได้นำสมาชิกพรรคมาให้กำลังใจการแข่งขันวอลเลย์บอล ระหว่างทีมชาติไทยและทีมชาติตุรกี โดยหลังจบการแข่งขัน ผู้สื่อข่าวได้มีการสัมภาษณ์ถึงประเด็นที่พรรคเพื่อไทย ยอมถอยตำแหน่งประธานสภาฯ ให้ นายพิธา ตอบสั้นๆ ว่า “ยังไม่จบ ยังเจรจากันอยู่”
ส.ว. ขวากหนามขวาง ‘พิธา’ นั่งนายกฯ
ขณะที่การก้าวขึ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของนายพิธา หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือการที่สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มีอำนาจร่วมโหวตได้ด้วย โดยก่อนหน้านี้ มีประเด็นจากทาง ส.ว.กลุ่มหนึ่ง ที่ยืนยันว่า จะไม่โหวตให้นายพิธา ขณะที่ก็มี ส.ว.บางส่วนออกมาแสดงตัวว่า จะโหวตให้กับพรรคการเมืองที่ได้รับคะแนนมากที่สุดตามหลักประชาธิปไตย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ที่ผ่านมา หลังจากที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้สัมภาษณ์ระหว่างนำ 150 ส.ส. เข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรช่วงเช้า ถึงความมั่นใจ ในเสียงสมาชิกวุฒิสภา เพียงพอที่จะสนับสนุน ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 โดยอ้างอิง ตัวเลขที่นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลอ้างอิง คือมีส.ว. สนับสนุนอยู่ที่ 50-60 คน จึงยังคงต้องจับตาว่าสุดท้ายแล้ว เสียงโหวตจะรวมกันถึง 376 เสียง สนับสนุนนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่
‘เศรษฐา’ เผยยังไม่ได้คิด เหตุ ‘พิธา’ สะดุดพลาดนายกฯ ไม่ตอบจะรับนายกฯ หรือไม่
ล่าสุดวันนี้ (30 มิ.ย. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานคณะที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรีในกรณีนายพิธาไม่สามารถฝ่าด่าน ส.ว. นั้น นายเศรษฐา ระบุว่า เป็นเพียงแหล่งข่าว คงต้องรอฟังจากพรรคเพื่อไทย โดยหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคจะดีกว่าในฐานะคณะเจรจา และเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตนก็ได้ไปประชุมร่วมกับพรรคก้าวไกลเรื่องเศรษฐกิจ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พร้อมรับตำแหน่งนายกฯ หรือไม่ นายเศรษฐา ระบุว่า ยังไม่ได้คิดตรงนั้น ต้องเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร เพราะต้องพยายามให้นายพิธาได้เป็นนายกรัฐมนตรีก่อน เพราะพรรคก้าวไกลได้คะแนนเสียงมากกว่า
“ผมยังไม่ได้คิดถึง (ตำแหน่งนายกฯ) เอาทีละขั้นตอนดีกว่า โดยวันนี้ต้องเลือกตำแหน่งประธานสภาฯ ให้ไม่บอบช้ำทั้งสองฝ่ายก่อนและไปเลือกนายกฯ ให้คุณพิธาได้เป็นนายกฯ เพราะได้รับเลือกมาเป็นอันดับหนึ่ง ก็หวังว่าจะไม่มีอุปสรรค” นายเศรษฐา ระบุ
4 ก.ค. ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ครั้งที่ 1 เลือก ‘ประธานสภา’
โดยหลังจากวันที่ 2 ก.ค. 66 หลังคณะเจรจาหารือพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลเตรียมหารือกันเรื่องตำแหน่ง “ประธานสภา” นัดสุดท้ายในช่วงเช้า และช่วงบ่ายจะเป็นการหารือของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ที่พรรคก้าวไกล จากนั้น ในวันที่ 4 ก.ค. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกตำแหน่งประธานสภา และรองประธานสภาสองตำแหน่ง ต่อไป
