จากกรณี รายงานจากพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า ประเด็นการหารือระหว่างพรรค พท. กับพรรคก้าวไกล ในเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ข้อยุติแล้ว พรรคก้าวไกล จะได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ส่วนพรรค พท. ได้ตำแหน่งรองประธานสภาฯ 2 ตำแหน่ง บนเงื่อนไขที่ว่าทั้ง 8 พรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมจะชูนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ แต่ถ้านายพิธาไม่สามารถฝ่าด่าน ส.ว. ได้ พรรค พท. จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
โดยมีพรรคก้าวไกลจะอยู่ช่วยพรรค พท. ในการจัดตั้งรัฐบาลไม่แยกตัวออกไปไหน ซึ่งแนวทางนี้เมื่อ ส.ส. รับทราบก็มีบางส่วนยอมรับว่าขัดความรู้สึกบ้าง แต่เมื่อได้รับฟังการชี้แจงถึงเป้าหมายในการจัดตั้งรัฐบาลที่พรรคก้าวไกลจะยืนข้างพรรค พท. ไม่แยกตัวไปไหนกรณีที่เพื่อไทยเป็นแกนนำ ทำให้ส.ส. รับฟังเหตุผลดังกล่าว
ขณะที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมชมการแข่งขันวอลเลย์บอลระหว่างทีมชาติไทยและทีมชาติตุรกี ถึงกรณีการหารือ ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกลและเพื่อไทยว่า “มีการหารือกันซึ่งยังไม่แน่ใจ ต้องให้ทีมเจรจาเคลียร์”
เมื่อถามว่า ยังไม่จบใช่ไหม นายพิธา กล่าวว่า เอาเป็นว่า “ถ้าพาดหัว ยังเจรจาอยู่ดีกว่า”