กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้สืบสวนปราบปรามมิจฉาชีพโดยเฉพาะการฉ้อโกงหลอกขายสินค้าทางสื่อสังคมออนไลน์ สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนให้ถึงต้นตอของขบวนการ แก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอย่างจริงจัง
สืบเนื่องจาก ผู้เสียหายได้รับโทรศัพท์จากคนร้ายอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้เสียหายประกอบกิจการเปิดร้านขายของ คนร้ายจึงได้สอบถามว่าผู้เสียหายได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งหรือไม่ จึงได้แจ้งไปว่าเข้าร่วมโครงการ แต่ปัจจุบันร้านขายของปิดกิจการไปแล้ว บุคคลดังกล่าวจึงเสนอยกเลิกโครงการให้โดยไม่ต้องเสียภาษี
จากนั้นให้ผู้เสียหายเพิ่มเพื่อนทางแอปพลิเคชันไลน์ และส่งลิงค์ให้กดติดตั้งแอปพลิเคชั่นเพื่อดำเนินการ ซึ่งแอปพลิเคชันดังกล่าวคล้ายกับแอปพลิเคชั่นของกรมสรรพากร มีช่องให้กรอกข้อมูลตามรายละเอียดตามกำหนดไว้ โดยคนร้ายได้กำชับกับผู้เสียหายว่าห้ามให้หน้าจอโทรศัพท์ดับ เมื่อเสร็จขั้นตอนคนร้ายจึงวางสายไป
จากนั้นมีข้อความส่งจากแอปพลิเคชันธนาคารของผู้เสียหายแจ้งว่า มีเงินถูกโอนออกไปจำนวน 2,300,000 บาท ได้รับความเสียหายจึงมาร้องทุกข์ดำเนินคดีกับคนร้ายตามกฎหมาย พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาต่อศาล
ต่อมาภายหลังวันที่ (28 มิ.ย.66) พ.ต.ท.ภาคภูมิ บุญเจริญพานิช รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3 ได้นำกำลังเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหา คือ น.ส.กัลยรัตน์ อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงเป็นบุคคลอื่น นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนและเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน” โดยจับกุมได้ บริเวณด้านข้าง สภ.พิชัย ต.ในเมือง อ.พิชัย จว.อุตรดิตถ์