คัดลอก URL แล้ว
“ปดิพัทธ์” ชี้ปม! ตำแหน่ง ปธ.สภา เป็นหน้าที่ทีมเจรจาหาข้อยุติ เชื่อจบก่อนวันโหวต 4 ก.ค.

“ปดิพัทธ์” ชี้ปม! ตำแหน่ง ปธ.สภา เป็นหน้าที่ทีมเจรจาหาข้อยุติ เชื่อจบก่อนวันโหวต 4 ก.ค.

“ปดิพัทธ์” ชี้ปม! ตำแหน่งประธานสภาเป็นหน้าที่ทีมเจรจาหาข้อยุติ เชื่อจบก่อนวันโหวต 4 ก.ค. ยังยึดหลักการพรรคอันดับหนึ่งต้องได้ตำแหน่งนี้ เชื่อเป้าหมายร่วม “เพื่อไทย-ก้าวไกล” ใหญ่กว่าจะแตกกันเพราะเรื่องนี้ มั่นใจทำหน้าที่ได้หากทุกคนเคารพกติกา

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล แคนดิเดตประธานสภาของพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีตำแหน่งประธานสภา ที่ถูกเลื่อนการเจรจาระหว่างพรรคเพื่อไทยกับก้าวไกลออกไป ออกไป ว่าเป็นการเลื่อนเพื่อรอจนกว่าคณะเจรจาจะได้ข้อยุติ ซึ่งในขณะนี้ทางคณะเจรจาได้รับฟีดแบคจากส.ส.แต่ละพรรคและสังคม ตอนนี้รอให้มีการเดินหนาเจรจา พร้อมยอมรับว่าเรื่องการการเจรจาของคณะดังกล่าวถูกเลื่อนทำให้การหารือของ 8 หัวหน้าพรรคถูกเลื่อนออกไปด้วย

พร้อมทั้งกล่าวถึงข้อสังเกตว่าพรรคก้าวไกลถอยออกมาหลังจากที่พรรคเพื่อไทยประกาศต้องการตำแหน่ฃประธานสภาว่าในขณะนี้การเจรจายังไม่สิ้นสุด ตราบใดที่ยังไม่มีการโหวตการเจรจาก็ยังสามารถเดินหน้าได้ แต่ด้วยเงื่อนเวลาบีบให้ต้องมีความชัดเจน แต่ก็ต้องให้เวลากับคณะเจรจา ซึ่งทางพรรคก้าวไกลก็ได้เตรียมพร้อมสำหรับการทำหน้าที่ประธานสภา

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยต้องการเก้าอี้ประธานสภา พรรคก้าวไกลจะยอมถอยหรือไม่ เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคเดินหน้าไปได้ นายปดิพัทธ์ชี้ว่าเป็นหน้าที่ของคณะเจรจาและเชื่อว่าจะได้ข้อสรุปทัน ก่อนที่จะมีการโหวต และยกตัวอย่างว่าก่อนที่จะสร้างบ้าน ลงทุน อาจจะมีการทะเลาะเรื่องพิมพ์เขียวให้เรียบร้อย หากปรับแบบแล้วยังไม่พอใจก็ไม่ต้องสร้าง แต่สุดท้ายก็ต้องมีวันสร้าง นั่นก็คือวันที่มีรัฐพิธีเปิดประชุมสภา

“แนวโน้มและเสียงโหวตที่ประชาชนมอบให้ ยังไง 2 พรรคนี้ก็ต้องหาทางตกลงกันให้ได้อยู่แล้ว” นายปดิพัทธ์กล่าว

นายปดิพัทธ์ยังกล่าวถึงหลักการที่ยึดว่าพรรคอันดับหนึ่งต้องได้ตำแหน่งประธานสภา เช่นเดียวกับพรรคอันดับหนึ่งที่ต้องเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยยังคงเดินหน้าตามหลักการนี้ และต้องชี้แจงสังคมให้ได้ว่าทำไมพรรคก้าวไกลถึงพร้อม จึงเตรียมแผนในทิศทางที่ควรจะเป็นไว้ หากแผนเปลี่ยนแปลงก็ค่อยว่ากัน

เมื่อถามว่าประเด็นนี้จะทำให้เพื่อไทย-ก้าวไกลแตกกันหรือไม่ นายปดิพัทธ์ระบุว่าในฝั่งของก้าวไกล คิดว่าในเรื่องนี้เป้าหมายใหญ่คือการฟอร์มรัฐบาล และคิดว่าจะไม่ยอมให้ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งมาทำให้เป้าหมายนี้เสียไป

ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่าเป็นสิทธิ์ของแต่ละฝ่ายที่จะวิพากษณ์วิจารณ์ถึงตัวบุคคลที่จะมาทำหน้าที่ตำแหน่งประธานสภา โดยมีข้อเสนอเรื่องประสบการณ์ ที่ได้รับเสียงสะท้อนมาจากครั้งก่อน จึงต้องมีการทำงานหนักมากขึ้น ค้นคว้าข้อมูลและถามผู้รู้ โดยปดิพัทธ์ระบุว่าไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นประธานสภาที่ดีที่สุดหรือไว้ใจได้อย่างไร แต่ได้แสดงความพร้อมในการทำหน้าที่และทำงานหนักร่วมกับทุกฝ่าย ซึ่งตามข้อบังคับก่อนที่จะมีการโหวตจะมีการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้ชิงตำแหน่ง เชื่อว่าเวทีดีงกล่าวจะสามารถแสดงถึงความตั้งใจที่จะสื่อสารกับส.ส. แต่ทั้งหมดนั้นจะต้องได้ข้อยุติที่ทีมเจรจาก่อน

นายปดิพัทธ์ยังกล่าวถึงการทำงานในพรรคก้าวไกลว่าแล่งทำหน้าที่ 3 ทีมประกอบด้วยทีมเจรจา ทีมฟอร์มรัฐบาล และทีมฟอร์มสภา ซึ่งจะมีการพูดคุยเรื่องตัวบุคคลที่วางไว้อาจจะสลับสับเปลี่ยนกันบ้าง และในทีมสภาก็มีการทำงานร่วมกัน ต้องวางระบบการทำงานของรัฐสภา แต่ท้ายที่สุดชื่อของตนถูกนำเสนอโดยคณะกรรมการบริหารพรรค และประกาศให้ที่ประชุม ส.ส.ได้รับทราบ พร้อมย้ำความไว้วางใจที่มีต่อทีมเจรจาในการหาข้อยุติ

นายปดิพัทธ์ยังแสดงความมั่นใจว่าหากได้ดำรงตำแหน่งประธานสภาจะสามารถทำหน้าที่ได้ เพราะเชื่อว่าส.ส.ทุกคนมีวุฒิภาวะ และอาจไม่ต้องให้ความเคารพที่ตัวของตนเองแต่ต้องเชื่อและปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมสภาที่ถือเป็นกฎหมาย และเคารพรัฐธรรมนูญ หากทุกคนอยู่ในกติกาได้ เชื่อว่าการทำตามกติกาสามารถทำให้เอาอยู่ได้ และยืนยันว่าจะเปิดกว้างในการผลักดันกฎหมายของทุกพรรค โดยจะชาออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคและไม่ร่วมประขุม ส.ส.ของพรรคเพื่อรักษาความเป็นกลางพร้อมเปิดรับการเสนอกฎหมายจากทุกพรรคและประชาชน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง