กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้
การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.อนุสรณ์ ทองไสย, พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิยโย, พ.ต.ท.กันตเมศฐ์ อัครโชควรานนท์ และ พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.ยะลา และ กก.สส.ภ.จว.นราธิวาส
ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา ตามหมายจับ จำนวน 5 ราย
1. นายอับดุลรอนิงฯ 2. นายแอนดีฯ
3. น.ส.อามีเนาะฯ 4. น.ส.กัญญ์วราฯ
5. นายฐิติวิชญ์ฯ
ข้อกล่าวหา “ร่วมกันเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ หรือเป็นผู้สนับสนุนเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ หน่วงเหนี่ยวกักขังบุคคล เป็นเหตุให้ผู้ถูกเอาตัวไป ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวหรือผู้ถูกกักขังนั้นเป็นการกระทำโดยทรมาน หรือโดยทารุณโหดร้ายจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำนั้นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยทารุณโหดร้าย”
จับกุมผู้ต้องหา ตามความผิดซึ่งหน้า ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน จำนวน 2 ราย
1. นายอิบรอเฮงฯ 2.นายซำซูดีนฯ
ข้อกล่าวหา “อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
สถานที่จับกุม พื้นที่ จ.นราธิวาส, จ.ยะลา และ จ.ขอนแก่น
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากในพื้นที่ 3 จ.ชายแดนใต้ มีเหตุคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ หรือ อาชญากรรมรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันมีสาเหตุมาจากการที่กลุ่มผู้มีอิทธิพลทางการเมือง กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ได้กระจายตัวและก่อเหตุในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. จึงติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าว มาโดยตลอด
ซึ่งเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2565 เวลาประมาณ 19.00 น.ขณะที่นายอิสมาแอ และนางซูเรียตี ภรรยา รับประทานอาหารอยู่บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 2 ตำบลบาโงสะโต อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส มีกลุ่มคนร้ายขับรถยนต์กระบะไม่ทราบทะเบียนมาจอดหน้าบ้าน และได้ร่วมกันเข้ามาจับตัวนายอิสมาแอ ขึ้นรถ แล้วใช้ผ้าปิดตามัดมือไพล่หลังมัดข้อเท้า แล้วได้พาไปที่บ้านหลังหนึ่ง โดยภรรยาของนายอิสมาแอ
ได้ไปแจ้งความที่ สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส เพื่อขอให้ติดตามผู้กระทำผิดมารับโทษ ต่อมากลุ่มคนร้ายโทรศัพท์ติดต่อภรรยาของนายอิสมาแอฯ ให้นำเงินจำนวน 500,000 บาท ไปให้เพื่อแลกกับอิสรภาพของ
นายอิสมาแอฯ กระทั่งเวลาต่อมาเมื่อนายอิสมาแอฯ ได้รับการปล่อยตัว จึงได้เดินทางมาพบ พนักงานสอบสวน
กก.6 บก.ป. เพื่อร้องขอให้ช่วยสืบสวน จับกุมกับกลุ่มผู้ต้องหาที่ได้ร่วมก่อเหตุ
จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหา ได้ร่วมกันก่อเหตุดังกล่าว โดยแบ่งหน้าที่กันทำ จำนวน 5 คน ดังนี้
1.นายอับดุลรอนิงฯ มีหน้าที่ จับกุมตัวผู้เสียหาย ไปกักขัง หน่วงเหนี่ยว และ รับเงินค่าไถ่
จากน.ส.อามีเนาะฯ ก่อนหลบหนี
2.นายแอนดีฯ มีหน้าที่ ร่วมกับนายอับดุลรอนิงฯ รับเงินค่าไถ่ จากน.ส.อามีเนาะฯ
3.น.ส.อามีเนาะฯ มีหน้าที่ รับเงินจาก ภรรยาผู้เสียหาย
4.น.ส.กัญญ์วราฯ มีหน้าที่ รับเงินจาก นายฐิติวิชญ์ฯ ผู้ต้องหา
5.นายฐิติวิชญ์ฯ มีหน้าที่ ทวงถามเงินค่าไถ่และรับการโอนเงิน จากลูกชายของผู้เสียหาย เพื่อนำไป
ให้ น.ส.กัญญ์วราฯ ผู้ต้องหา
สำหรับ มูลเหตุในคดีนี้เกิดจากปัญหาความขัดแย้งกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลทางการเมืองและยาเสพติด
ทำให้กลุ่มคนร้ายจับตัว นายอิสมาแอฯ เพื่อเรียกค่าไถ่
เมื่อสืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่อง จนรู้ตัวกลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในคดีนี้ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลอาญาออกหมายจับ รวมทั้งสิ้น 5 ราย โดยแบ่งเป็นข้อหา “ร่วมกันเพื่อให้ได้มา
ซึ่งค่าไถ่ หรือเป็นผู้สนับสนุนเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ หน่วงเหนี่ยวกักขังบุคคล เป็นเหตุให้ผู้ถูกเอาตัวไป
ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวหรือผู้ถูกกักขังนั้นเป็นการกระทำโดยทรมาน หรือโดยทารุณโหดร้ายจนเป็นเหตุ
ให้ผู้ถูกกระทำนั้นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยทารุณโหดร้าย” จำนวน 2 ราย
และ ข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ หน่วงเหนี่ยวกักขังบุคคล เป็นเหตุให้ผู้ถูก
เอาตัวไป ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวหรือผู้ถูกกักขังนั้นเป็นการกระทำโดยทรมาน หรือโดยทารุณโหดร้ายจนเป็นเหตุ
ให้ผู้ถูกกระทำนั้นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยทารุณโหดร้าย” จำนวน 3 ราย
จนนำมาสู่ปฏิบัติการในวันนี้ (25 มิ.ย.66) ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกับกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยะลา, กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาสปราบปรามจับกุม “แก๊งเรียกค่าไถ่” โดยเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่จ.นราธิวาส, จ.ยะลา และ จ.ขอนแก่น รวมจำนวน 10 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหา ตามหมายจับ ได้ทั้ง 5 ราย และจับกุมผู้ต้องหาความผิดซึ่งหน้า ความผิดฐาน พ.ร.บ.อาวุธปืน จำนวน 2 ราย ตามข้างต้น
พร้อมกับสามารถตรวจยึดของกลาง 12 รายการ ดังนี้
1. อาวุธปืน รวมจำนวน 4 กระบอก
– อาวุธปืนเล็กยาว AK102 จำนวน 1 กระบอก
– อาวุธปืนพกสั้นยี่ห้อ COLT จำนวน 1 กระบอก
– อาวุธปืนพกสั้น จำนวน 1 กระบอก
– อาวุธปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อซิกฯ รุ่น พี365 สีดำ จำนวน 1 กระบอก
2. โทรศัพท์ จำนวน 9 เครื่อง
3. เครื่องกระสุนปืน รวมจำนวน 124 นัด
– ลุกกระสุนปืน ขนาด 5.56 จำนวน 100 นัด
– ลูกกระสุนปืน ขนาด .45 จำนวน 6 นัด
– ลูกกระสุน .380 จำนวน 7 นัด
– ลูกกระสุน ขนาด 9 มม. จำนวน 11 นัด
4. สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 4 เล่ม
5. แม็กกาซีนปืน จำนวน 2 แม็ก
6. ปลอกกระสุนปืน .380 จำนวน 13 ปลอก
7. รถจักรยานยนต์ Scoopy จำนวน 1 คัน
8. รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าซีวิค จำนวน 1 คัน
9. ใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าซีวิค 1 เล่ม
10. เสื้อยืด/กางเกง/ผ้าคลุม (ฮิญาบ) 1 รายการ
11. ซองกระสุนปืน จำนวน 7 ซอง
12. ซิมการ์ดโทรศัพท์ จำนวน 2 ชิ้น
จากการซักถามปากคำกลุ่มผู้ต้องหาตามหมายจับ แบ่งเป็น 4 ราย ให้การปฏิเสธ ได้แก่
1. นายอับดุลรอนิงฯ
2. นายแอนดี
3. น.ส.กัญญ์วรา
4. นายฐิติวิชญ์
และให้การภาคเสธ จำนวน 1 ราย ได้แก่
น.ส.อามีเนาะ ซึ่งรับว่ารับสารภาพว่า ตนรับเงินจริงแต่ไม่ทราบถึงขบวนการดังกล่าวก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป