วันนี้ (21 มิ.ย.66) นายอดิศร เพียงเกษ เดือดกลางวงสัมนา ไม่ยกตำแหน่งประธานสภาฯ ให้ก้าวไกลแน่นอน เตือนอย่ากินรวบตำแหน่งเพื่อนฝูง ไม่สะดวกยกมือโหวตให้สามเณรบวชใหม่มานั่งประมุขฝ่ายนิติฯ มั่นใจเพื่อไทยครบเครื่องกว่า
โดยนายอดิศร เพียงเกษ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นตัวแทนในการร่วมเสนอความคิดเห็นประเด็นบุคคลที่เหมาะสมนั่งตำแหน่ง ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวออกมาว่าพรรคเพื่อไทย ยอมยกตำแหน่งประธานสภาฯ ให้แก่พรรคก้าวไกล ว่า การพูดคุยครั้งนี้ถึงแม้ความคิดเห็นจะไม่ตรงกันจากข้อมูลข่าวสารที่ได้รับ แต่สิ่งที่เท่ากันคือเราเหนื่อยยากในการหาเสียง แต่ไม่สามารถทำตามเป้าหมายแลนด์สไลด์ได้
ส่วนการที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาพูด ตนไม่เห็นด้วย พรรคก้าวไกลได้ 151 เสียง เราได้ 141 เสียง ศักดิ์ศรีเท่ากัน ตนสนับสนุนให้พรรคอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาล และให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี
“ไม่ใช่ 151 เสียง จะเอาเดือนเอาดาว เอาตำแหน่งประธานสภาฯ มันมากเกิน ไม่เห็นเพื่อนฝูงอยู่ในสายตา ตนพูดเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาไม่มีอคติ แต่สู้ให้พรรคเพื่อไทยยิ่งใหญ่ไม่เป็นลูกน้องพรรคการเมือง”
นายอดิศร กล่าวอีกว่า ตำแหน่งประธานสภาฯ ใครๆ ก็เป็นได้ เพราะเป็นเป้าหมายสูงสุดของ ส.ส. การเดินไปด้วยกันคือความสง่างาม ทำให้ประเทศเจริญรุ่งเรือง ไม่ใช่มาเอาทุกเรื่อง นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่า อย่าใช้คำว่ากินรวบ กินแบ่ง ประชาชนจะหาว่าแย่งผลประโยชน์กัน ให้ใช้ศัพท์รัฐศาสตร์ว่า การถ่วงดุลซึ่งกัน และกัน
“เราไม่สามารถให้ตำแหน่งประธานสภาฯ แก่พรรคก้าวไกล เพราะคุณได้เพียง 151 เสียง หากมีความขัดแย้งก็ให้โหวตในสภาฯ ศักยภาพคนของพรรคเพื่อไทยเหมาะสมมากกว่า ไม่อยากเห็นสามเณรบวชใหม่มาเป็นเจ้าอาวาส อย่ายอมให้เขาง่ายๆ คนที่ออกมาห่วงใยก้าวไกลอยากถามว่า คุณเป็นก้าวไกลหรือเพื่อไทย ประธานสภาฯ ควรเป็นของพรรคเพื่อไทย โดยศักยภาพ พรรคก้าวไกลต้องถอนออก จะทำให้รัฐบาลผสมสามารถเดินทางไปสู่การทำงานร่วมกันได้ แต่ปัญหาแก้ไม่ได้เหมือนหินอยู่ในรองเท้า”
นายอดิศร ยังย้ำอีกว่า ตนไม่ยกมือให้สามเณรและพระบวชใหม่มานั่งตำแหน่งเจ้าอาวาส และขออภัย นายภูมิธรรม ที่ทะเลาะเบาะแว้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อให้พรรคเพื่อไทยกลับมายิ่งใหญ่ “พรรคเพื่อไทยไม่ใช่สาขาของพรรคก้าวไกล” ทุกเขตเลือกตั้งเราสู้กับพรรคก้าวไกลทั้งนั้น การทำงานทางการเมืองอย่าอ่อนต้องแข็ง เรามีประสบการณ์ 22 ปี ไม่ได้แพ้ ความคิดอาจจะแตกต่างกันแต่พรรคเพื่อไทยต้องยิ่งใหญ่ใน 4 ปีนี้ และทำงานทันทีที่สภาฯ เปิด
ภาพ – ธนโชติ ธนวิกรานต์