คัดลอก URL แล้ว
กรมศุลกากร ทำลายของกลางละเมิดลิขสิทธิ์ รวมมูลค่ากว่า 57 ล้านบาท

กรมศุลกากร ทำลายของกลางละเมิดลิขสิทธิ์ รวมมูลค่ากว่า 57 ล้านบาท

วันนี้ ( 19 มิถุนายน 2566 ) ที่ ห้องโถง อาคาร 1 กรมศุลกากร ถ.สุนทรโกษา คลองเตย กทม. นายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ รองอธิบดีกรมศุลกากร รักษาการในตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศลกากร เป็นประธานในพิธีนำของกลาง ที่คดีถึงที่สุดไปทำลาย พร้อมด้วยนายถวัลย์ รอดจิตต์ ผู้อำนวยการกองสืบสวนและปราบปราม พ.ต.อ.วงศ์ปกรณ์ เปรมกุลนันท์ รอง ผบก. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) พ.ต.ต. สตพงษ์ เชื้อมหาวรรณ ผู้อำนวยการส่วนคดีทรัพย์สินทางปัญญา 3 กรมสวบสวนคดีพิเศษนางสาวเขมะศิริ นิชซากร ผู้อำนวยการกองป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กรมทรัพย์สินทางปัญญาและผู้แทนจากกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ร่วมพิธีดังกล่าว โดยมีของกลางที่นำไปทำลาย รวมมูลค่ากว่า 57 ล้านบาท

นายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ รองอธิบดีกรมศุลกากร รักษาการในตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบ ควบคุมทางศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลกากร ร่วมกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) และกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรม ทางเทคโนโลยี (สอท., ได้จับกุมและตรวจยึดของกลาง อาทิ เครื่องสำอาง บารากู่ บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า สินค้า ละเมิดลิขสิทธิ์ สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า และอื่น ๆ จำนวนทั้งสิ้น 1,295,875 ชั้น คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 57,349,633 บาท โดยเป็นการกระทำความผิดฐาน

“มีไว้ในครอบครองซึ่งบุหรี่ไฟฟ้า ที่เป็นสิ่งของต้องห้าม นำเข้ามาในราชอาณาจักร ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ จำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งสิ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกไปจากยานพาหนะ คลังสินค้าทัณฑ์บน โรงพักสินค้า ที่มั่นคง ท่าเรือรับอนุญาต หรือเขตปลอดอากร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากร”

อีกทั้ง สินค้าบางรายการมีการลอกเลียนแบบและมีการลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักรถือเป็นการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยประเทศไทยได้มีข้อตกลงที่จะร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อให้เกิดการยอมรับในระดับสากล รวมถึงสร้างมาตรฐานการปกป้องสังคม เพื่อประโยชน์ทางการค้าของผู้ประกอบการที่สุจริตและประชาชนทั่วไป นายพงศ์เทพกล่าว

ด้านนายพงศ์เทพฯ กล่าวต่ออีกว่า กรมศุลกากรจะนำของกลางที่คดีได้ถึงที่สุดและตกเป็นของแผ่นดินตามกฎหมาย ไปทำลายโดยวิธีการเผาทำลาย ณ โรงกำจัดขยะผลิตไฟฟ้าเพื่อสิ่งแวดล้อม ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม ซึ่งอยู่ในการกำกับดูแลของบริษัท ซีแอนด์จี เอ็นไวรอนเมนทอล โปรเท็คชั่น (ประเทศไทย) จำกัดในวันที่ 19 – 21 มิถุนายน 2566 และทุบทำลายโดยใช้รถบด ณ บริษัท โกลเด้นดีพ (ประเทศไทย) จำกัด ในวันที่ 22 มิถุนายน 2566


ภาพ – วิชาญ โพธิ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง