“2 ตำรวจไซเบอร์” เปิดคลิปยันไม่เกี่ยวข้องตบทรัพย์ 140 ล้าน ถูกกล่าวหาเพราะอยู่ในชุดตรวจค้นบ้าน มีหลักฐานชี้แจง และเตรียมแจ้งความกลับ
พ.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ อ่อนตา รอง ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 (รอง ผบก.สอท.2) และ พ.ต.ท.ปฐมพงษ์ มีอยู่ สารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 (บก.สอท.2) 2 ซึ่งเป็นตำรวจที่ปรากฎชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตบทรัพย์ 140 ล้านบาท แถลงภายหลังรับทราบข้อกล่าวหาและให้ปากคำนานกว่า 7 ชั่วโมงที่สโมสรตำรวจ ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงิน
พ.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ เผยกับสื่อมวลชนว่า ชุด สอท. แยกการทำงานกับชุดตำรวจภูธรชลบุรี โดยหน้าที่ สอท. คือเก็บหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์ ระหว่างการตรวจค้น มีดำเนินการบันทึกวิดีโอ มีภาพถ่ายไว้ตลอด พร้อมปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 หรือ ‘พ.ร.บ. อุ้มหาย’ ตลอดระยะเวลาตรวจค้นบ้านนายเป้ ผู้ต้องหา หลัง สอท. เก็บหลักฐานเสร็จ ส่งมอบให้เป็นอำนาจต้นทางคดี คือ ภจว.ชลบุรี นำไปดำเนินการต่อ กระบวนการหลังจากนั้นก็ถือเสร็จสิ้นภารกิจของตำรวจ สอท. และเดินทางกลับที่ตั้ง
ส่วนทาง ภวจ.ชลบุรี รับตัวผู้ต้องหา หรือสิ่งที่เกี่ยวข้องในคดี ไปทำอะไรต่อ สอท. ไม่ได้รับรู้ส่วนนั้น ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ วันนี้ และให้การตามข้อเท็จจริง มั่นใจไม่มีการร่วมกระทำผิด หลังจากนี้จะรวบรวมหลักฐานมายืนยัน ว่าไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา และจะเดินทางไปแจ้งความ ที่ สภ.คูคต สำหรับการที่ถูกกล่าวหาดังกล่าวด้วย ที่ทำให้ตนเสียชื่อเสียง
พร้อมบอกอีกว่าคดีนี้เร่งรีบไปหน่อย หากใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานให้มากกว่านี้ จะเห็นกระบวนการทำงานจริงๆ เท่าที่ดู ตอนนี้เป็นการแจ้งข้อกล่าวหารวมๆ เพราะยังไม่ได้ระบุว่าทำความผิดอะไรบ้าง แต่ก็ให้การตามข้อเท็จจริงไปหมด มั่นใจไม่ได้ร่วมกระทำผิดแน่นอน พร้อมชี้แจงทั้งหมด ส่วนที่พาทนายความ และนายอัจฉริยะมาด้วย เพราะในอนาคตจะได้ให้เป็นผู้ให้ข่าวแทน เนื่องจากผิดระเบียบของตำรวจ
ด้านนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เผยว่าตำรวจ สอท.ทั้ง 2 คนเป็นเหยื่ออาชญากรรม จากการที่เข้าไปพูดคุยกับตำรวจในสโมสรวันนี้ทั้งวัน มีตำรวจท่านหนึ่งบอกมีตำรวจใหญ่ระดับประเทศสั่งมา หลังจากทราบจึงต้องมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์กัน
ตำรวจได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 157 กว้าง ๆ กล่าวหา ค้นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และข้อหา กักขังหน่วงเหนี่ยวที่นำตัวนายหรั่ง (คนขับรถเป้) ไปที่ชลบุรี และอีกคำกล่าวอ้างของนายเป้ ว่า มีบุคคลภายนอกเข้าร่วมจับกุม และมีการลักทรัพย์ เป็นเงินสดจำนวน 360,000 บาทไป ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่านายบอยเป็นคนนำเงินไป ไม่ใช่ตำรวจ
ตามบันทึกแจ้งข้อหาพนักงานสอบสวนยืนยันว่า สอท. ทั้ง2 คน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์ หรือรีดไถเงิน 140 ล้านบาท เป็นเพียงการถูกกล่าวหาว่าไปอยู่ในชุดตรวจค้นที่บ้านนายเป้ และเป็นการค้นโดยมีบุคคลภายนอก 2 คนอยู่ด้วย ซึ่งนี่เป็นข้อกล่าวหาข้อพนักงานสอบสวน
ยืนยัน ทั้งสองคนมีการบันทึกวิดีโอไว้ตลอดการปฎิบัติงานเข้าตรวจค้นบ้านของนายเป้ ซึ่งตรงนี้จะเป็นหลักฐานที่ยืนยันความบริสุทธิ์ และยังมีรายงานสืบสวน สภ.คูคต ยืนยันว่าตำรวจทั้งสองนายมาหลังชุดปฏิบัติการชลบุรี มีภาพวงจรปิดที่ป้อมยามยืนยัน ที่ตอนนี้ ชุดสืบสวนของ สภ.คูคตไปเก็บหลักฐานมาเรียบร้อย
ข้อหาที่ตำรวจทั้งสองนายโดน ไม่ได้เกี่ยวกับการเรียกรับผลประโยชน์ / วันนี้ก็ได้ส่งวิดีโอให้ผู้สื่อข่าว เป็นคลิปขณะ สอท. เข้าเก็บพยานหลักฐานบ้านนายเป้ / กรณีเงินหาย 360,000 บาทนั้น ยืนยันไม่มีการเกี่ยวข้อง เพราะนายเป้ให้การเท็จ กับพนักงานสอบสวน / มีคลิปวิดีโอตรวจนับเงินดังกล่าว นายเป้กับแม่นั่งอยู่ด้วย / ซึ่งหลังส่งมอบเงินจำนวนดังกล่าวให้ทาง ภจว.ชลบุรีไปแล้ว ทาง สอท.ไม่ทราบรายละเอียดแล้ว
#ตบทรัพย์140ล้าน #ผู้การชลบุรี #เป้ #ข่าววันนี้ #mono29 #mononews
