คัดลอก URL แล้ว
ฉาววงการสีกากี จับผู้การฯ ชลบุรีกับพวก รีดเงินผู้ต้องหา 140 ล้าน

ฉาววงการสีกากี จับผู้การฯ ชลบุรีกับพวก รีดเงินผู้ต้องหา 140 ล้าน

ฉาววงการสีกากี จับผู้การฯ ชลบุรีกับพวก รีดเงินผู้ต้องหา 140 ล้าน ผบ.ตร. ตั้ง “บิ๊กโจ๊ก” เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ยันหากพบผิดดำเนินคดีทุกราย

วันนี้ (17 มิ.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตำรวจสภ.คูคตจ. ปทุมธานี จับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปอส.ภ.จว.ชลบุรี ที่ก่อเหตุร่วมกันตบทรัพย์ผู้เสียหาย ในคดีเว็บพนัน และรีดเงินรวม 6 ครั้ง กว่า 140 ล้านบาท โดยจับกุม พลตำรวจตรี กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พร้อมพวกอีกรวม 10 คน

สำหรับพฤติกรรมนั้น ได้จับกุมผู้เสียหาย จากพื้นที่ จ.ปทุมธานี แล้วนำไปคุยในห้องพลตำรวจตรี กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี โดยผู้การชลบุรี บอกผู้เสียหายว่า “มีทางออก และพูดอีกว่า “รักผู้การเท่าไร เขียนมา”

สำหรับรายชื่อตำรวจที่ร่วมก่อเหตุ มีดังนี้

1. พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี

2. พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ วาสุพัน รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี

3. พ.ต.ท.เสถียร รัชพงษ์ไทย รอง ผกก.สภ.หนองขาม จว.ชลบุรี

4. พ.ต.ต.พรเทพ เพ็ชรนวล สว.สส.สภ.วังจันทร์ จว.ระยอง

5. พ.ต.อ.ดำรงค์ อ่อนตา ผกก.สอท.

6. พ.ต.ต.นครราช นนสีลาด

7. พ.ต.ท.ปฐมพงษ์ มีอยู่

8. ร.ต.อ.สมบุญ บุตรดาเลิศ

9. นายพิสิษฐ์ คณิศรพาณี หรือต้น

10.นายวีระ นาทรัพย์ หรือบอย

โดยได้แจ้งข้อหา “เป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความ เสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” , “ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้ หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญหรือของบุคคลที่สาม จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น” , “ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพ ในร่างกาย”

ล่าสุด พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม.ในฐานะ โฆษก ตร. แถลงข่าวระบุว่า ในส่วนของความคืบหน้า พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน รวมไปถึง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน เอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รายงานข้อเท็จจริงมายัง ตร. โดยด่วน เพื่อดำเนินการเรื่องวินัย หากพบว่ามีมูลหรือส่วนเกี่ยวข้อง ก็จะมีการตั้งคณะกรรมการทางวินัยร้ายแรงต่อไป โดยในขณะนี้ยังไม่มีการขออนุมัติต่อศาลเพื่อออกหมายจับแต่อย่างใด ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน

พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ระบุเพิ่มเติมว่า ในส่วนสุดท้าย นโยบายของ ผบ.ตร. มีนโยบายของการกวาดบ้านตนเอง หากตำรวจคนไหนทำผิดก็จะต้องดำเนินคดีทุกราย


ข่าวที่เกี่ยวข้อง