คัดลอก URL แล้ว
โรงไฟฟ้าพลังน้ำในเวียดนามหยุดผลิตไฟฟ้าหลายแห่ง จากการขาดแคลนน้ำ

โรงไฟฟ้าพลังน้ำในเวียดนามหยุดผลิตไฟฟ้าหลายแห่ง จากการขาดแคลนน้ำ

สถานการณ์การภัยแล้งอย่างหนักในประเทศเวียดนาม ส่งผลให้เขื่อนผลิตไฟฟ้าจำนวน 11 ในประเทศเวียดนามต้องหยุดการผลิต โดยกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนามได้แถลงถึงปัญหาการขาดแคลนน้ำและส่งผลกระทบต่อการผลิตไฟฟ้าของเวียดนาม

โดยในขณะนี้ ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำและเขื่อนหลายแห่งอยู่ในระดับต่ำวิกฤติ ส่งผลให้โรงไฟฟ้าพลังน้ำจากเขื่อน 8 แห่งจำเป็นจะต้องหยุดการผลิตไฟฟ้า จากปัญหาดังกล่าว ได้แก่ เขื่อน Lai Chau, Son La, Thac Ba, Tuyen Quang, Ban Drawing, Hua Na, Thac Mo, Tri An

ซึ่งในจำนวนนี้ 5 แห่งอยู่ในพื้นที่ทางภาคเหนือของเวียดนามอยู่ในสถานะที่หยุดการผลิตโดยสิ้นเชิง และระงับการระบายน้ำ เนื่องจากต้องรักษาระดับน้ำบริเวณเหนือเขื่อน ไม่ให้ตัวเขื่อนเสียหาย หรือกังหันผลิตไฟฟ้าเสียหายจากระดับน้ำที่ต่ำวิกฤติ

ในขณะที่อีก 6 แห่งคือ ในพื้นที่ Son La, Lai Chau, Huoi Quang, Thac Ba, Tuyen Quang, Hua Na, Trung Son, และ Tri An นั่นไม่สามารถการันตีกำลังการผลิตได้ เนื่องจากแม้ว่ายังคงมีการปล่อยน้ำและสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้บ้าง แต่ระดับน้ำที่มีน้อย อาจจะมีการหยุดการผลิตได้ หากระดับน้ำถึงระดับวิกฤติ

โดยเขื่อน Thac Ba ในจังหวัด Yen Bai เป็นการปิดกังหันผลิตไฟฟ้าจำนวน 2 ใน 3 ตัว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 50 กว่าปีที่มีการปิดกังหันผลิตไฟฟ้าของเขื่อนแห่งนี้ นอกจากนี้ กำลังผลิตไฟฟ้าในเดือน พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา ยังต่ำกว่า 90% เมื่อเทียบ พ.ค. 2565

ไฟฟ้าต่ำกว่ากำลังผลิตเกือบครึ่ง

จากปัญหาความแห้งแล้งที่เกิดขึ้น และนำไปสู่การหยุดการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำในหลายแห่ง ทำให้ในขณะนี้ทางภาคเหนือของเวียดนามเผชิญปัญหาไฟฟ้าไม่เพียงพอมากขึ้นเรื่อย ๆ

โดยกำลังการผลิตอยู่ที่ราว 40% เท่านั้น จากความต้องการไฟฟ้าทั้งหมดราว 50 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ทำให้ยังคงต้องการพลังงานทดแทนในส่วนที่หายไปอีกราว 30 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง

และปัญหาดังกล่าวส่งผลให้รัฐบาลเวียดนาม จำเป็นต้องมีการระงับการจ่ายไฟฟ้าเป็นช่วง ๆ เพื่อยังจำกัดปริมาณการใช้งาน และมีพลังงานเหลือแบ่งจ่ายไฟฟ้าไปยังพื้นที่อื่น ๆ ได้ เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับภาคธุรกิจและประชาชน

โดยการไฟฟ้าเวียดนามระบุว่า ในชณะนี้ ทางภาคเหนือของประเทศเวียดนามมีความต้องการพลังงานอยู่ที่ราว 2 หมื่นเมกกะวัตต์ ในบางวันที่มีสภาพอากาศร้อนจัด ระดับความต้องการพลังงานก็พุ่งสูงขึ้นเป็น 2.3-2.4 หมื่นเมกกะวัตต์ แต่สามารถจัดหาได้จากการผลิต และนำเข้าร่วม 1.75 -1.79 หมื่นเมกกะวัตต์เท่านั้น

ส่วนกำลังผลิตไฟฟ้าจากโรงงานไฟฟ้าความร้อนยังอยู่ในระหว่างการเร่งดำเนินการผลิตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็มีความกังวลจากการเดินเครื่องกำลังผลิตสูงสุดอย่างต่อเนื่อง อาจจะส่งผลให้เครื่องมีปัญหา และกระทบต่อกำลังการผลิตได้

ในขณะที่โรงไฟฟ้าถ่านหินบางส่วนที่มีปัญหาความล่าช้าในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลกระทบจากแผนพัฒนาพลังงาน ฉบับที่ 8 ที่ล่าช้ากว่า 2 ปี ก็กำลังอยู่ในระหว่างการเร่งดำเนินการ เพื่อให้โรงไฟฟ้าถ่านหินบางแห่งสามารถเปิดใช้งานได้ รวมถึงแผนการนำเข้าถ่านหินจากประเทศลาวเพิ่มเติมอีกด้วย

แนวทางตัดไฟ แบ่งจ่ายพลังงานยังดำเนินต่อ

จากปัญหาไฟฟ้าที่ไม่เพียงพอกับความต้องการ จึงมีกำหนดแนวทางการจัดสรรไฟฟ้า โดยมีการตัดกระแสไฟฟ้า เพื่อแบ่งการจ่ายไฟฟ้าไปยังพื้นที่ต่าง ๆ โดยเน้นการจ่ายให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าที่สำคัญและจำเป็นก่อน ซึ่งในกลุ่มของภาคครัวเรือน จะมีการตัดไฟฟ้า ไม่เกิน 8 ชั่วโมง ร่วมถึงขอความร่วมมือในการประหยัดพลังงาน ในช่วงวันหยุด รวมถึงพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ด้วย

ซึ่งสถานการณ์การตัดไฟฟ้าที่เกิดขึ้นคาดว่า จะมีต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 10 วัน โดยหลายฝ่ายคาดหวังว่า ปริมาณฝนที่จะเพิ่มขึ้น จะทำให้มีปริมาณน้ำในเขื่อนมากขึ้น และกลับมาเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าได้อีกครั้งหนึ่ง

ในบางพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการตัดกระแสไฟฟ้าในครัวเรือน ชาวเวียดนามจำนวนมากต้องออกมานั่งรับลม ลดความร้อนภายนอกบ้าน ในช่วงค่ำ บางพื้นที่ต้องออกมานานบริเวณด้านนอกบ้านเพื่อรับลม หนีความร้อนจากในบ้าน

ชาวเวียดนามบางส่วนระบุว่า แม้ทางการจะแจ้งระยะเวลาการตัดไฟ แต่ที่ผ่านมา สิ่งที่เกิดขึ้นมักจะไม่เป็นไปตามที่แจ้งไว้ มีการตัดไฟฟ้านานกว่าที่ระบุ บางส่วนจัดหาเครื่องปั่นไฟฟ้ามาใช้งาน แต่ก็ยังพบปัญหาว่า ไม่สามารถซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงมาเติมได้ เนื่องจากปั้มน้ำมันไม่มีไฟฟ้า และไม่สามารถจ่ายน้ำมันได้

ทางด้านของผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโดฯ อพาร์ตเมนต์ เผชิญปัญหาที่มากกว่า เนื่องจากบางครอบครัวมีเด็กอยู่อาศัยร่วมด้วย การเปิดหน้าต่างจึงเป็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ในขณะเดียวกัน ปัญหาไฟฟ้าดับ ก็ส่งผลให้ ลิฟต์ไม่สามารถใช้งานได้ แม้ว่า จะมีไฟฟ้าสำรองก็ตาม แต่การที่ลิฟต์หยุดชะงัก จึงกลายเป็นปัญหาอย่างมาก

ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในอาคารสูงเป็นปัญหาอย่างมาก เมื่อไฟฟ้าดับ เนื่องการขึ้นลงบันไดเป็นเรื่องลำบากอย่างมาก หลายครอบครัวจึงได้รับผลกระทบอย่างหนักจากปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากไม่สามารถลงไปหาซื้ออาหาร หรือประกอบอาหาร หรือแม้แต่อุ่นอาหารเพื่อรับประทานได้


ข้อมูล –


ข่าวที่เกี่ยวข้อง