คัดลอก URL แล้ว
อัจฉริยะ ร้อง ปปป.ทลายแก๊งขนน้ำมันเถื่อน อ้างผู้ใหญ่สรรพสามิตอยู่เบื้องหลัง

อัจฉริยะ ร้อง ปปป.ทลายแก๊งขนน้ำมันเถื่อน อ้างผู้ใหญ่สรรพสามิตอยู่เบื้องหลัง

อัจฉริยะ ร้อง ปปป. สอบขบวนการขนน้ำมันเถื่อน ในพื้นที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ อ้างมีรองอธิบดีกรมสรรพสามิตอยู่เบื้องหลัง คอยช่วยเหลือขบวนการนี้มาอย่างยาวนาน

วันนี้ (8 มิ.ย. 2566) เวลา 9.30 น. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อร้องเรียนให้ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. สอบสวนและเอาผิด ขบวนการขนน้ำมันเถื่อน ที่ถูกจับกุมไปเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา ในพื้นที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยอ้างว่ามีรองอธิบดีกรมสรรพสามิตเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง คอยช่วยเหลือขบวนการนี้มาอย่างยาวนาน

โดยนายอัจฉริยะ เผยถึงขบวนการนี้ว่า เป็นการลักลอบนำน้ำมันเถื่อนซึ่งไม่มีคุณภาพ มาจากประเทศมาเลเซีย โดยสำแดงเป็นน้ำมันดำ คือการเอาน้ำมันดีเซลมาผสมกับคาร์บอน 40% ซึ่งมีต้นทางอยู่ที่จังหวัดสงขลา โดยจะมีการขนส่งไปยังปทุมธานี สระบุรี สุพรรณบุรี และตามปั๊มหลอดต่างจังหวัดต่างๆ

โดยมีเจ๊หมง เป็นเจ้าของรถบรรทุกน้ำมัน มาส่งให้กับเจ๊บีม ซึ่งเป็นคนสนิทของตำรวจน้ำชื่อ ‘โยะ’ ที่ทำน้ำมันเถื่อนด้วยกัน โดยวันที่ถูกจับกุมที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตำรวจทางหลวงได้ยึดรถบรรทุกน้ำมันปริมาณมากถึง 40,000 ลิตร จากที่ตามข่าวนำเสนอไปแค่ 15,000 ลิตร โดยขณะนั้นมีโทรศัพท์จากรองอธิบดีสรรพสามิต ชื่อเล่น ‘ยุทธ’ พร้อมด้วยลูกน้องมือขวาที่ชื่อ ‘ต้น’ โทรเข้ามาที่สรรพสามิตประจวบฯ ให้ปล่อยตัวผู้ต้องหา แต่ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าปล่อยไม่ได้ ต่อมาก็โทรไปที่ชุดจับกุม ซึ่งชุดจับกุมก็ยืนยันว่าปล่อยตัวไม่ได้เช่นเดียวกัน ก่อนที่ตำรวจทางหลวงจะส่งมอบของกลางรถบรรทุกน้ำมันให้กับกรมสรรพสามิตประจวบฯ ไป แต่หลังจากนั้นกลับพบว่ารถบรรทุกน้ำมันได้หายไปจากกรมสรรพสามิตประจวบฯ

โดยนายอัจฉริยะ ย้ำว่า ขบวนการนี้เป็นขบวนการใหญ่ ที่ทำกันอย่างโจ่งแจ้งมาสักระยะ โดยมีผู้ใหญ่คอยให้ความช่วยเหลือ จึงไม่เคยถูกจับกุมมาก่อนหน้านี้ จึงอยากให้ทางผู้การ ปปป. ดำเนินคดีทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และทลายขบวนการนี้ให้สิ้นซาก

นายอัจฉริยะ ระบุว่า หลังจากนี้ ต้องรอทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบตัวอย่างน้ำมัน ที่เคยเก็บไว้บางส่วน ว่าเป็นน้ำมันเถื่อนจริงหรือไม่ แต่มั่นใจว่าจากหลักฐานสำคัญที่ตนมี ทั้งภาพถ่าย ประวัติการโทร และพยานหลักฐานอื่นๆ จะสามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดได้แน่นอน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง