เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2566 จากกรณีที่เมื่อ วันที่ 3 มิถุนายน2566 นายหมู่เอกชัชวาลย์ นิ่มไหมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนเมืองสระบุรี ได้รับแจ้งว่าในพื้นที่ศาลหลักเมืองสระบุรีบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองสระบุรี ถ.พิชัยฯต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี ได้มีคนนำก้อนอิฐประสานที่ก่อเป็นกำแพงรั้วศาล นำไปขว้างปาลงสู่พื้นรอบๆศาลหลักเมือง ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า บริเวณพื้นศาลหลักเมือง ด้านหลังของศาล มีเศษก้อนอิฐกำแพงศาล แตกกระจายเกลื่อนพื้น และโคมไฟไม้ที่ตั้งอยู่บนหัวเสาก็ถูกรื้อทำลายขว้าง ปาใส่พื้นหักพังเสียหาย ถังขยะด้านหลังศาลถูกยกขึ้นไปบนพื้น และนำเศษขยะออกจากถังโยนใส่พื้นกระจายอยู่ทั่วไป ที่พื้นศาลยังพบถังตะเกียงที่มีไว้ให้ผู้ที่มากราบไหว้ใช้เติมนำมันตะเกียงถูกเลื่อนย้ายจากจุดที่ตั้งไปอยู่ท้ายศาล
จากนั้นพ.ต.อ.สุริยะ สุดกังวาล ผกก.สภ.เมืองสระบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สอบสวน สภ.เมืองสระบุรี และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมตรวจกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียง และไล่ตรวจกล้องตามจุดต่างๆ จนพบรถที่ต้องสงสัยขับขี่ออกจากที่เกิดเหตุ และสืบทราบว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นนายอนุชา (เอ๋) อายุ 28 ปีอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.สระบุรี จึงได้เชิญตัวนายเอ๋ สอบยังห้องสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี พร้อมตรวจสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งไม่พบว่ามีการเสพสารเสพติดแต่อย่างได และในการสอบสวน นายเอ๋ ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง เนื่องจากว่าวันเกิดเหตุตนเองเกิดจากความเครียด และแรงกดดันในตัวเอง น้อยใจที่โดนใส่ร้ายป้ายสี จึงได้ขี่รถจักยานยนต์ยี่ฮ้อฮอนด้า ซูโม่เอ็กซ์ สีเหลือง ดำ หมายเลขทะเบียน 3กณ 7997 กรุงเทพหานคราตามถนนเรื่อยๆ และเมื่อถึงที่ศาลจึงได้จอดรถข้างที่ดินจังหวัด และเดินเข้ามาภายในศาล ประกอบกับตนเองได้ดื่มเหล้ามาด้วยมีอาการมึนเมา จึงได้เอาก้อนอิฐที่กำแพงศาลขว้างปาลงพื้น พร้อมยกถังขยะขึ้นไปด้วย เหมือนกับว่ามีอะไรมาดลจิตดลใจให้ตนเองมาทำที่นี่ ซึ่งทุกทีตนเองก็ไม่เป็นแบบนี้ ตนเองมีอาชีพรับจ้างตัดหญ้า
ทางด้านพ.ต.ต.ยศธเดช สุขเทียบ สว.สส.สภ.เมืองสระบุรี กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุจึงได้ตรวจไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทาง พยายามไล่ไปจนใกล้เคียงบ้านผู้ก่อเหตุ จำนั้นก็หาข้อมูลดูว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร จนทราบว่าเป็นใครจากนั้นจึงเชิญตัวมาสอบสวน ยังสภ.เมืองสระบุรี จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ยอมรับสารภาพ เนื่องจากว่าตนเองมีความน้อยใจ และมีความกดดันจากบุคคลภายนอก คนรอบข้าง ประกอบกับดื่มเหล้า ดื่มเบียร์ไป เกิดอาการมึนเมา และหักห้ามไม่ได้ และเมื่อผ่านเข้ามาก็ก่อเหตุด้วยความน้อยใจ และไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งผู้ก่อเหตุก็ยอมรับสารภาพหมด จากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะทำบันทึกจับกุม และรายละเอียดส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีทางด้านกฏหมายต่อไป