วันนี้ (3 มิ.ย. 66) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. กล่าวถึงการประกาศรับรองส.ส. ว่า จะมีการประกาศเร็วกว่าปี 2562 หรือเร็วกว่า 60 วัน ตามกรอบของกฎหมาย แต่ตอนนี้ยังมีขั้นตอนบางประการ ทางกฎหมาย ที่กกต. จะต้องดำเนินการ คือการตรวจสอบว่า ในหน่วยเลือกตั้ง 95,000 กว่าหน่วย หน่วยไหนจะต้องมีเหตุสั่งให้เลือกตั้งใหม่ ออกเสียงลงคะแนนใหม่หรือไม่ ซึ่งประเด็นการพิจารณาเหล่านี้จะเข้าสู่ที่ประชุมกกต.ในเร็วๆนี้ และหลังจากนั้นอาจจะใช้เวลาไม่มาก ว่าจะประกาศรับรองส.ส.ได้เมื่อไหร่ และจะพยายามประกาศรับรองให้ได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงที่จะต้องพิจารณาเรื่องดังกล่าว
นายอิทธิพรย้ำว่า ตระหนักดี ว่าจะต้องเร่งประกาศผลโดยไม่ชักช้า แต่มีขั้นตอนตามกฏหมาย ซึ่งจนถึงตอนนี้มีคำร้องเกี่ยวกับการเลือกตั้งกว่า 280 เรื่อง แต่ไม่แน่ใจว่า คำร้องต่อผู้มีคะแนนเป็นอันดับ 2 ในการเลือกตั้ง มีราวๆ 20 คน โดยจะต้องมีการตรวจสอบว่ามีเหตุหรือหลักฐานที่จะต้องสั่งการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ พร้อมชี้เเเจงว่า การที่จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง 95 % ตามกฏหมายจะต้องมี 475 คน หากประกาศได้ครบ 100% ก็จะดำเนินการ
ประธานกกต.ยังกล่าวถึงคำร้องการถือหุ้นสื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าอยู่ในกระบวนการรวบรวมข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานของคณะกรรมการสืบสวนไต่สวน สำนักงานกกต. คาดว่าในไม่ช้านี้จะมีความเห็นเสนอต่อที่ประชุมกกต. และยังตอบไม่ได้ว่าจะส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะยังไม่เห็นพยานหลัก ซึ่งคดีถือหุ้นสื่อก่อนหน้านี้ หรือ คดีของนายพิธา ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ส่วนจะเรียกนายพิธามาให้ข้อมูล หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับสำนักงานกกต.
ส่วนข้อสังเกตว่า การยื่นคำร้องเรื่องนายพิธาถือเป็นการเล่นงานทางการเมืองประธานกกต. ยืนยันว่า ไม่เคยพิจารณาในประเด็นดังกล่าว แต่กกต. ดูที่คำร้อง และ ต้องใช้พื้นฐานของระเบียบว่าด้วยการสืบสวนไต่สวนเป็นหลัก พร้อมยืนยันว่า ไม่รู้สึกกดดันจากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ โดยยืนยัน ว่าเป็นการปฎิบัติหน้าที่ของกกต.และ สำนักงานกกต. ซึ่งปฏิบัติตามหน้าที่ และปฏิบัติเช่นนี้มาโดยตลอด