รัฐบาลเปรูประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 60 วัน ใน 131 พื้นที่ของประเทศไทย เพื่อเตรียมพร้อมรับมือวิกฤติที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเกิดปรากฎการณ์เอลนีโญในปี 2023 นี้ ที่กำลังใกล้เข้ามาแล้ว
โดยการประกาศ “El Peruano” นี้ ได้กำหนดความรร่วมมือของหน่วยงานในท้องถิ่น, สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข รวมถึงหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้การตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นมาตรการจำเป็นเร่งด่วนในการเตรียมความพร้อมรับมือกับปรากฎการณ์เอลนีโญ ในปีนี้ ครอบคลุมพื้นที่ในจังหวัดอาปูริมาค์ คุสโก จุนิน และปูโน
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรับมือกับภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เนื่องจากที่ผ่านมาหน่วยงานต่าง ๆ มักจะประสบปัญหากับความไม่พร้อมต่าง ๆ เมื่อเกิดภัยพิบัติในประเทศ
ซึ่งในปีนี้ องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมของเปรูได้ระบุว่า ผลกระทบส่วนใหญ่จากการเกิดปรากฎการณ์เอลนีโญ นั้นจะส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำฝน ซึ่งส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในบางพื้นที่ของประเทศ ในขณะที่บางพื้นที่จะต้องเผชิญกับความเสี่ยงต่อภัยแล้ง และสภาพอากาศที่ร้อนกว่าปรกติ
คาดจะเริ่มในช่วง มิ.ย. – ต.ค.
ผู้เชี่ยวชาญในประเทศเปรูได้ประเมินว่า ปรากฎการณ์เอล นีโญที่จะเกิดขึ้นนี้ น่าจะเริ่มต้นในช่วงมิถุนายน 2566 ไปจนถึงราวกลางเดือนตุลาคม 2566 และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นนั้น อาจจะใกล้เคียงหรือรุนแรงกว่าเมื่อปี 2017 ที่ส่งผลกระทบให้เกิดความเสียหายอย่างหนักบริเวณตอนเหนือของประเทศเปรู
ซึ่งเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา หลายฝ่ายได้พบสัญญาณของความผิดปรกติที่เกิดขึ้นจากระดับอุณหภูมิของน้ำทะเลสูงขึ้นบริเวณนอกชายฝั่งประเทศเปรู ซึ่งเป็นความผิดปรกติเกือบตลอดแนวชายฝั่งของประเทศ ที่มีระดับอุณหภูมิของน้ำทะเลสูงขึ้นระหว่าง 1-3 องศาเซลเซียส รวมถึงความผิดปรกติของสภาพอากาศในบางพื้นที่อีกด้วย
โดยในปี 2017 เปรูต้องเผชิญสถานการณ์ทั้งฝนตกหนัก น้ำท่วม ดินถล่มและหิมะถล่ม ในภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศในภูมิภาค La Libertad, Lambayeque และ Piura ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเปรู และต่อเนื่องไปจนถึงบริเวณภูมิภาค Arequipa ที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศ ส่งผลให้มีผู้ได้รับผลกระทบมากกว่า 1 ล้านคน สะพาน ถนน และสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เสียหายหลายแห่ง
รัฐบาลเปรูต้องสร้างศูนย์พักพิงชั่วคราวมากกว่า 50 แห่งทั่วประเทศ แต่ก็ยังคงไม่เพียงพอต่อความผู้ประสบภัย สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้หลายฝ่ายยังคงวิตกกังวลต่อสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2023 นี้ ที่คาดว่า จะเกิดปรากฎการณ์เอลนีโญนี้อีกครั้ง
