คัดลอก URL แล้ว
“อย่าเพิ่งตีกัน” แฟนคลับห่วง วิวาทะ “น.ต.ศิธา” กับ “นพ.ชลน่าน” ปมคำถามเรื่อง Advance MOU

“อย่าเพิ่งตีกัน” แฟนคลับห่วง วิวาทะ “น.ต.ศิธา” กับ “นพ.ชลน่าน” ปมคำถามเรื่อง Advance MOU

“อีกหน่อยเธอคงเข้าใจว่าอะไรสำคัญไปกว่าแค่รักกัน อีกหน่อยซึ่งคงไม่นาน ถึงวันนั้นแล้วเธอจะเข้าใจ” โพสต์ล่าสุดของน.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย หลังวันนี้ (24 พ.ค.66) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ได้ถือโทษโกรธ น.ต.ศิธา แต่อยากให้ทุกอย่างอยู่ในร่องในรอยในกรอบ ถ้าขอโทษก็ยินดีรับ ซึ่งในวันแถลงข่าวลงนาม MOU ได้บอก น.ต.ศิธาว่า จะทำตัวเป็นสื่อ หรือจะทำตัวเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งที่ก็เป็นคนร่วมพิจารณาร่าง MOU อยู่ด้วย คำพูดนี้ ถือว่าแรง ทุกคนได้ยิน และที่สำคัญ การไปเขียนต่อเติมเสริมแต่งว่า มีการดื่มสังสรรค์ชนแก้ว มีการพูดคุย จนไปกล่าวหาว่า นพ.ชลน่านไปรับบรีฟ เป็นเรื่องที่เสียหายมาก และก่อนจบสัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถามว่า “ทำไมวันนี้เดือดจัง” นพ.ชลน่าน สวนกลับมาทันทีว่า ” ผมเดือดผมมีอารมณ์ ถ้าชกได้ผมชกไปแล้ว”

ย้อนรอยปมเหตุการณ์

22 พ.ค. 66 น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ร่วมงานแถลงMOU 8 พรรค ไม่ได้ร่วมอยู่บนเวที แต่นั่งอยู่ในกลุ่มผู้สื่อข่าวและยกมือถามคำถามในประเด็นที่ว่า “ท่านจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน ว่าท่านจะยืนตัวตรง สู้กับกลไกที่เผด็จการฝังไว้ในบทเฉพาะกาล 5ปีแรกของ รธน.60 โดยกำหนดให้ สว.มีสิทธิ์เลือกนายกฯ ด้วยการเซ็น #AdvanceMOU อีก1ฉบับ ระบุว่าท่านจะทำงานร่วมกัน ตามฉันทานุมัติของประชาชน ที่มีให้กับพรรคฝ่ายประชาธิปไตย (หรือพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิม) ไม่ว่าท่านจะเป็นรัฐบาล หรือฝ่ายค้านร่วมกันก็ตาม” ได้หรือไม่ โดย ระบุว่าการแถลงข่าวยืดเยื้อเกินเวลาจะตอบทั้ง 8พรรค หรือ “จะตอบเฉพาะ 2พรรคใหญ่” คือ #ก้าวไกล และ #เพื่อไทย เพื่อไม่ให้เสียเวลาก็ได้ โดยนพ.ชลน่าน ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว

23 พ.ค. 66 นพ.ชลน่าน ให้สัมภาษณ์กับสื่อ ไม่สบายใจกับคำถามของน.ต.ศิธา เพราะควรจะมานั่งตอบบนเวที ไม่ควรจะไปนั่งถามอยู่ข้างล่าง ที่ต้องตำหนิ เพราะน.ต.ศิธา นั่งอยู่ในวงที่ร่าง MOU ด้วยกัน และมีส่วนเสนอใน MOU หลายข้อ อะไรที่พูดกันในวงจบแล้วกลับเป็นคนถามขึ้นมา ไม่รู้ว่ามีจุดประสงค์อะไร ซึ่งคำถามที่ถามไม่ได้เป็นคำถามเชิงบวก

23 พ.ค. 66 น.ต.ศิธา โพสต์เฟสบุ๊ก ชี้แจงว่า

“ตามที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาฝากถึงผมในมุมของการ #เสียมารยาท นั้น
ผมขออนุญาตชี้แจง ดังนี้

เมื่อวานนี้ ในการแถลงข่าวเซ็น MOU จัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน ผมได้ตั้งคำถามไปยัง 8พรรคการเมือง ว่า
“ท่านจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน ว่าท่านจะยืนตัวตรง สู้กับกลไกที่เผด็จการฝังไว้ในบทเฉพาะกาล 5ปีแรกของ รธน.60 โดยกำหนดให้ สว.มีสิทธิ์เลือกนายกฯ ด้วยการเซ็น #AdvanceMOU อีก1ฉบับ ระบุว่าท่านจะทำงานร่วมกัน ตามฉันทานุมัติของประชาชน ที่มีให้กับพรรคฝ่ายประชาธิปไตย (หรือพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิม) ไม่ว่าท่านจะเป็นรัฐบาล หรือฝ่ายค้านร่วมกันก็ตาม” ได้หรือไม่

เนื่องจากการแถลงข่าวยืดเยื้อเกินเวลา ผมจึงบอกว่า “จะตอบทั้ง 8พรรค” หรือ “จะตอบเฉพาะ 2พรรคใหญ่” คือ #ก้าวไกล และ #เพื่อไทย เพื่อไม่ให้เสียเวลาก็ได้
คุณพิธา ได้กดไมค์ตอบผมทันที ว่าเป็นไปได้ที่จะลงนามใน Advance MOU ร่วมกับในอนาคตอันใกล้ ส่วนคุณหมอชลน่าน ไม่ตอบคำถามผม แต่ได้ตอบคำถาม ที่นักข่าวฝากให้ผมถามให้ ผมจึงได้ย้ำคำถามไปอีกครั้ง ผมก็ได้รับคำตอบจากคุณพิธาคนเดียว ส่วนคุณหมอชลน่าน ไม่ตอบเช่นเดิม

เมื่อถึงจุดนี้ผมพอจะเข้าใจว่า คำถามของผมคุณหมอชลน่านไม่ได้ลืมที่จะตอบ แต่อาจเป็นคำถามที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยอึดอัดที่จะตอบ ผมจึงยุติการตั้งคำถาม หลังจากแถลงข่าวเสร็จ เราก็ไปนั่งทานข้าว และพูดคุยชนแก้วกันอย่างชื่นมื่น โดยที่คุณหมอก็พูดคุยกับผมตามปกติ ไม่ได้มีการคาดคั้น หรือชี้แจง จากทั้งสองฝ่ายแต่อย่างใด
ผมไม่ทราบว่า หลังจากนั้น คุณหมอโดนใครตำหนิ หรือไปรับบรีฟจากใครมา อยู่ๆวันนี้จึงงัวเงีย ออกมาพูดกับสาธารณชนว่า เป็นการเสียมารยาท และฝากหัวหน้าพรรคฯมาอบรมผม ด้วย

โดยในมุมมองผมนั้น ทั้งตามมารยาทที่คุณหมอหยิบยกมาอ้าง และเนื่องจากที่เป็นลูกผู้ชายด้วยกันทั้งคู่นั้น ทั้งต่อหน้าและลับหลัง เราก็ควรจะพูดคุยด้วยอารมณ์และความรู้สึก และ Messages เดียวกัน ไม่ใช่ดื่มกิน ชื่นมื่นกันเป็นชั่วโมง แต่พอวันรุ่งขึ้นกลับตาลปัด มาพูดถึงกันในเชิงลบ ผ่านสื่อมวลชนเช่นนี้
สำหรับผม การที่พรรคการเมืองจะออกมายืนยัน เพื่อความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนนั้น มันยิ่งใหญ่กว่าการเสียมารยาทของผมเพียงแค่คนเดียวมากนัก ดังนั้นการที่ผมจะเอาตัวเองเข้าแลก เพื่อประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่เช่นนี้ ผมไม่ได้กังวลต่อคำสบประมาท ว่าเป็นการเสียมารยาท แต่อย่างใด
ถ้าจะให้พูดให้เคลียร์คัท

“ผมไม่ได้กลัวการเสียมารยาท มากไปกว่า
กลัวการสืบทอดอำนาจของเผด็จการ” เลย

ส่วนในมุมการรักษามารยาท ที่คุณหมอกำหนดบรรทัดฐานมานั้น เมื่อทราบความอึดอัดของหมอชลน่านเช่นนี้ ผมก็คงไม่ไปถามอะไรถึงเรื่องนี้อีก
ในทำนองเดียวกัน หากหลังจากนี้มีประชาชนผู้ลงคะแนน ให้กับพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมร่วม 25ล้านคน หรือสื่อมวลชนทั่วไป จะมีใครไปถามหมอแทนประชาชน ถึงจุดยืน Advance MOU นี้อีก

ผมก็หวังว่า ท่านหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะรักษามารยาท ด้วยการตอบคำถามต่อพี่น้องประชาชนด้วย ครับ”

24 พ.ค. 66 น.ต.ศิธา โพสต์ขอโทษ ข้อความว่า

“MOU = เปิดตัวเป็นแฟนกัน

AdvanceMOU = จัดงานหมั้น

ร่วมรัฐบาล = แต่งงานกันเป็นครอบครัว
ผมก็เช่นเดียวกับพี่น้องประชาชนทั่วไปครับ

เราทนทุกข์กับการบริหารประเทศแบบลุงๆมา 9 ปี เมื่อมีโอกาส ก็อยากจะเชียร์ให้ประเทศไทยของเรา จัดตั้งรัฐบาลที่เป็น #ครอบครัวประชาธิปไตย ที่สง่างามให้ได้ โดยหลายคนมองว่า 8พรรคนี้เหมาะสม และลงตัวที่สุด
หากคำถามของผมมันล้ำหน้า (Advance)มากเกินไป จนทำให้ไม่สบายใจ ผมต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
คนรักกัน เป็นแฟนกันแล้ว
คิดเกินเลยไป ก็ต้องถอยหลัง
ผิดพลั้งไป ก็ต้องขอโทษ
ต่อไปนี้ ไม่ล้ำเส้น ไม่เร่ง ไม่บีบคั้น
เรามาเดินหน้าต่อแบบพอดีๆ
ไปด้วยกันครับ

#MOU8พรรคร่วมรัฐบาล

24 พ.ค. 66 นพ.ชลน่าน ให้สัมภาษณ์ หลังเห็นโพสต์ น.ต.ศิธา ระบุว่า ไม่ได้ถือโทษโกรธ แต่อยากให้ทุกอย่างอยู่ในร่องในรอยในกรอบ ถ้าขอโทษก็ยินดีรับ ซึ่งในวันแถลงข่าวลงนาม MOU ตนก็บอก น.ต.ศิธาว่า จะทำตัวเป็นสื่อ หรือจะทำตัวเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งที่ก็เป็นคนร่วมพิจารณาร่าง MOU อยู่ด้วย คำพูดนี้ ถือว่าแรง ทุกคนได้ยิน และที่สำคัญ การไปเขียนต่อเติมเสริมแต่งว่า มีการดื่มสังสรรค์ชนแก้ว มีการพูดคุย จนไปกล่าวหาว่า ตนไปรับบรีฟ อันนี้เสียหายมาก

เมื่อถามว่า หากพรรคร่วมรัฐบาลให้ตำแหน่ง น.ต.ศิธา ไม่ว่าจะตำแหน่งใดก็ตาม นพ.ชลน่านจะพิจารณาตำแหน่งของตัวเองด้วยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ที่พูดเนี่ยหมายความว่า พรรคแกนนำเป็นเรื่องของพรรคแกนนำที่ต้องไปทำความเข้าใจกับพรรคร่วมอื่นๆ โดยเฉพาะกับพรรคไทยสร้างไทย ว่าพฤติกรรมแบบนี้ จะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานร่วมกันหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า น.ต.ศิธาต้องขอโทษในรูปแบบใด นพ.ชลน่านกล่าวว่า แบบใดก็ได้ ที่แสดงให้เห็นว่าเขาสำนึก ฝากพรรคแกนนำ อย่าให้เรื่องอะไรเล็กๆน้อยๆมาบั่นทอนการทำงานร่วมกันของเรา แต่ถ้าเห็น 6 เสียงมากกว่า 141 เสียง ตนก็ยอม ส่วนแนวทางก็แค่อยากให้พูดคุยกันกับ น.ต.ศิธาว่า ขอเถอะ กำลังจับมือจัดตั้งรัฐบาล อะไรที่ช่วยกันได้ ก็ควรช่วยกันทำ จะไปสร้างฉากสร้างซีนอะไร ก็ไปทำทีหลัง ให้เรื่องนี้จบก่อน ตนว่า พูดแค่นี้มันน่าจะจบ

เมื่อถามว่า ถึงขั้นต้องลดบทบาท น.ต.ศิธา หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของพรรคแกนนำเพราะตนไม่มีอำนาจพอที่จะไปชี้เอานั่นไม่เอานั่น เพียงแต่ขอให้เกียรติกันเท่านั้นก็พอ ตนไม่ติดใจจะเป็นรัฐมนตรีหรือเป็นอะไรก็เรื่องของเขา แต่ถ้ามีพฤติกรรมแบบนี้ ทำงานร่วมกันยาก

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่จะเดินออกจากห้องสื่อมวลชน ผู้สื่อข่าวถามว่า “ทำไมวันนี้เดือดจัง” นพ.ชลน่าน สวนกลับมาทันทีว่า ” ผมเดือดผมมีอารมณ์ ถ้าชกได้ผมชกไปแล้ว”

24 พ.ค. 66 น.ต.ศิธา โพสต์อีกครั้งหลัง นพ.ชลน่าน ให้สัมภาษณ์ “อีกหน่อยเธอคงเข้าใจว่าอะไรสำคัญไปกว่าแค่รักกัน อีกหน่อยซึ่งคงไม่นาน ถึงวันนั้นแล้วเธอจะเข้าใจ”

หลังจากโพสต์ดังกล่าว ก็มีคอมเม้นต์จำนวนมาก เช่น อย่าเพิ่งทะเลาะกันจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ก่อน หรือ เข้ามาให้กำลังใจน.ต.ศิธา ว่าอยากทราบคำตอบจากพรรคเพื่อไทยเหมือนกันว่าจะจับมือกันตลอดรอดฝั่งหรือไม่


ข่าวที่เกี่ยวข้อง