KEY :
- อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ พร้อมตัวแทนสมาคมผู้เลี้ยงหมู เข้าร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หลังพบการกระทำความผิดลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน
- ระบุ มีผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 50 คน ตั้งแต่นายด่านจนถึงระดับผู้บริหารภายในกรมศุลกากร
- อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุ พบว่ามีเค้าโครงการกระทำความผิดจริง โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
…
วันนี้ (16 พ.ค. 66) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วย นายสัตวแพทย์ สุทัศน์ ตั้งธโนปจัย กรรมการสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และตัวแทนสมาคมหมูและเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูที่ได้รับความเดือดร้อนจากการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน ได้เข้าร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หลังพบการกระทำความผิดลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนที่ติดโรค และสำแดงเอกสารเท็จผ่านระบบคอมพิวเตอร์ผ่านท่าเรือแหลมฉบังและอื่นๆ หลบหนีภาษีและยังปล่อยให้มีการลักลอบนำเข้าสารตั้งต้นผลิตยาเสพติดผ่านท่าเรือแหลมฉบัง โดยมีการร่วมกันสำแดงเอกสารเป็นเท็จและไม่เสียภาษีนำเข้าโดยทำกันเป็นขบวนการใหญ่มูลค่าความเสียหายนับพันล้านบาท
นายอัจฉริยะ ระบุว่า ได้รวบรวมพยานหลักฐานและสืบสวนสอบสวน จนกระทั่งสามารถจับกุม บริษัทห้องเย็น ที่จังหวัดสมุทรสาคร พร้อมกับได้เอกสารการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกับทางชิปปิ้งในการนำเข้ามา ถือว่าเป็นล็อตเดียวกันทั้งหมด 11 ตู้ ตอนนี้อยู่ในการดำเนินคดีที่กองบังคับการปราบปรามคุ้มครองผู้บริโภค กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จำนวน 1 ตู้ ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหากับชิปปิ้ง รวมไปถึงนายทุน ซึ่งเรายังไม่เชื่อว่าเป็นผู้กระทำความผิดตัวจริง มีการยึดอายัดรถของกลางที่บรรทุกมาด้วย เราได้มีการ ทำเรื่องส่ง DSI ให้มีการตรวจสอบอีก 10 ตู้
นายอัจฉริยะ ระบุว่า ตนได้นำหลักฐานที่เป็นใบเสร็จที่แสดงให้เห็นถึงการกระทำการทุจริตร่วมกัน มีการขยายผลไปยังผู้บงการตัวจริง เป็นหลักฐานใบเสร็จที่มีบริษัทนำเข้ามายืนยันว่าเป็นอาหารแช่แข็งถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง ที่ท่าเรือแหลมฉบัง แต่บริษัทชิปปิ้งไปสำแดงรายละเอียดว่าเป็นสินค้าที่มาจากฮ่องกง และระบุเป็นเม็ดพลาสติก ซึ่งไม่ได้มีการเสียภาษี เดิมทีแล้วหากเป็นการนำเข้าเนื้อสัตว์ ก็จะต้องเสียภาษีในอัตรากิโลละ 7 บาท จะต้องมีการขอใบอนุญาตนำเข้าอีก ค่าใช้จ่าย 1 ตู้ประมาณ 200,000 บาท
แต่บริษัทชิปปิ้งรายนี้กลับเสียค่าใช้จ่ายเพียง 3,000 กว่าบาท แสดงให้เห็นชัดว่าเป็นการหลบเลี่ยงภาษีและยังเป็นการสำแดงเท็จ ตนได้ยื่นเรื่องไปอีก 161 ตู้เพื่อให้ DSI ดำเนินการ มูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นกว่าพันล้านบาทซึ่งก็จะเข้าหลักเกณฑ์ของการเป็นคดีพิเศษ เชื่อว่ามีผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 50 คน ตั้งแต่นายด่านจนถึงระดับผู้บริหารภายในกรมศุลกากร ตอนนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้กระทำความผิดตามข้อหา ความผิดฐานเรื่องภาษี การลักลอบนำเข้าและการฟอกเงินรวมไปถึงข้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวถึงขั้นตอนการพิจารณาคดี ในวันนี้อยู่ในขั้นตอนของการรับเรื่องพบความเสียหายหลักหมื่นล้านก็เป็นหน้าที่ของ DSI ที่จะต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อรับเป็นคดีพิเศษ ดำเนินการในเชิงรุกเพื่อให้เห็นว่ามีผู้ร่วมขบวนการใครบ้าง จากการสอบถามในเบื้องต้นพบว่ามีเค้าโครงการกระทำความผิดจริง โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
ภาพ – กฤติกร จิตติอร่ามกูล
