พรรคเพื่อชาติจัดกิจกรรม
“คุณได้ยินเสียงร้องไห้ของประชาชนไหม” โดยกิจกรรมครั้งนี้เป็นการจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ เรียกร้องให้ผู้มีอำนาจหันมาฟังเสียงของประชาชนและให้ประชาชนลุกขึ้นทวงศักดิ์ศรีของตนเอง ให้เสียงของประชาชนดังขึ้น โดยภายในงานจะมีกิจกรรมเขียนข้อความบนรถด้วยดินสอพองกับแคปชั่นที่ว่า..
- คุณได้ยินเสียงร้องไห้ของประชาชนบ้างไหม?
- Don’t you hear our cries?
- คุณเคยทุกข์ร้อนกับการถูกเอารัดเอาเปรียบไหม?
ซึ่งภายในงานก็มี นายยงยุทธ ติยะไพรัช
ที่ปรึกษาพรรคเพื่อชาติ พร้อมสมาชิกพรรคเพื่อชาติเข้าร่วมกิจกรรมกันตั้งแต่เช้า ซึ่ง นายยงยุทธ กล่าวว่า วันนี้พรรคเพื่อชาติจะยืนอยู่เคียงข้างประชาชน และจะถามว่าคุณได้ยินเสียงความเดือดร้อนของพวกเราไหม เขาอาจจะบอกว่าความเดือดร้อนของพวกเราคงไม่เท่าไรมั้ง แต่ถ้าถึงขั้นร้องไห้แล้วยังไม่สนใจอีก ประเทศชาติมันจะอยู่ยังไง นี่คือการรณรงค์ทั้งหมด
วันนี้เราไม่ได้ทำหน้าที่ในการหาเสียงแล้ว เราเปลี่ยนโหมด เราไม่ได้มาบอกว่านโยบายเราดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ จะแจกเท่านั้นเท่านี้ แต่วันนี้เราบอกว่า เราจะไม่รอจนกว่าจะได้เป็นรัฐบาล ไม่รู้จะได้เป็นจริงๆกันเมื่อไร แต่วันนี้ชาวบ้านเดือดร้อน ค่าไฟโดนปล้น จากเดิมเสียพันสองกลายเป็นสองพันกว่า แล้วไปเปิดดูต่างประเทศเขาถูกกว่าเราเยอะแยะ แล้วยังจะยกย่องว่ารัฐบาลนี้เก่งยังงั้นยังงี้ เก่งยังไง? ไปปล้นอำนาจมา มีมาตรา 44 บอกว่าจะแก้นั่นแก้นี่ ไม่เห็นมีอะไรเลย แล้วยังบอกจะอยู่ต่ออีก ประชาชนร้องไห้กันทุกคน เราจะทำหน้าที่เรียกร้องแทนประชาชน วันนี้คุณเป็นรัฐบาลรักษาการทำไมไม่ไปปรึกษากกต. ว่าจะทำอะไรได้บ้างไหมให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยลง เขาก็ไม่ทำ วันนี้ต้องถามดังๆแทนประชาชนทุกคนว่า คุณได้ยินเสียงประชาชนร้องไห้บ้างไหม
หลังจากที่เขียนข้อความลงบนรถเรียบร้อย นายยงยุทธ สมาชิกพรรคเพื่อชาติก็ได้ร่วมกันปล่อยคาราวานรถที่เขียนข้อความด้วยดินสอพองให้วิ่งรณรงค์ไปตามท้องถนนโดยเริ่มตั้งแต่ที่ถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าเข้าสู่ถนนพระราม 1 ตัดเข้าถนนพระราม 6 และออกไปถึงถนนศรีอยุธยาเพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่ถนนสามเสน พระอาทิตย์ ถนนพระจันทร์ วนบริเวณท้องสนามหลวง แล้วสิ้นสุดที่บริเวณหน้าศาลฎีกาก่อนเดินทางกลับ Live policy center
ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้มีคนสนใจเข้าร่วมงานกันจำนวนมาก ก็หวังว่าการจัดกิจกรรมครั้งนี้จะสามารถช่วยกระตุ้นเตือนให้ผู้มีอำนาจหันมาสนใจรับฟังเสียงประชาชนที่ไม่เคยได้รับความสนใจ และให้สังคมช่วยกันส่งเสียงของประชาชนให้ดังขึ้นบ้าง