KEY :
- กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ย้ำจุดยืนชัดเจน ไม่สนับสนุนใช้กัญชาสันทนาการ เน้นให้ใช้ทางการแพทย์
- พร้อมเดินหน้า ร่วมกับภาคีเครือข่าย บังคับใช้กฎหมายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565
- เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ถนนข้าวสาร จับกุมร้านค้าทำผิดเงื่อนไขและกฎหมาย สมุนไพรควบคุม (กัญชา) จำหน่ายหรือแปรรูป โดยไม่ได้รับอนุญาต และ ผิดเงื่อนไข จำนวน 5 ราย
…
นายแพทย์เทวัญ ธานีรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้จากการลงพื้นที่บังคับใช้กฎหมาย (กัญชา) ที่ถนนข้าวสาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร แล้วได้มีการเจรจา พูดคุย กับผู้ประกอบการ ประชาชน และสื่อมวลชน กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ขอยืนยันไม่สนับสนุนให้ใช้กัญชาแบบสันทนาการ ประเด็นเรื่องกัญชาทางการแพทย์ ในวิชาชีพที่แตกต่างกัน อาจมีมุมมองทางวิชาการที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความรู้ ประสบการณ์ ทัศนคติ และแนวคิดของแต่ละบุคคล สำหรับ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มีจุดยืน คือ ให้ใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์ เพื่อให้ประชาชนสามารถมีทางเลือก และมีสิทธิ์ในการเข้าถึงกัญชาทางการแพทย์ได้ โดยไม่ผูกขาดจากวิชาชีพใดวิชาชีพหนึ่ง
ในส่วนข้อกังวลของสังคมในการใช้กัญชา กระทรวงสาธารณสุขได้มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องมารองรับ เพื่อหวังให้เกิดการใช้กัญชาด้วยความระมัด ระวัง จึงได้กำหนดข้อห้ามของกัญชา อย่างชัดเจน เช่น ห้ามจำหน่ายให้กับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์ หรือ สตรีให้นมบุตร ห้ามจำหน่ายให้กับนักเรียน นิสิต หรือ นักศึกษา ห้ามให้บริการสูบกัญชาในสถานประกอบการทั่วไป ห้ามจำหน่ายเพื่อการค้าผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์
รวมถึงห้ามโฆษณากัญชาในทุกช่องทางเพื่อการค้า และห้ามสูบกัญชาในสถานที่ต้องห้าม เช่น วัดหรือสถานที่สำหรับปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา หอพักตามกฎหมายว่าด้วยหอพัก สวนสาธารณะ สวนสัตว์ และ สวนสนุก เป็นต้น การกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 46 กรณีจำหน่ายหรือแปรรูปสมุนไพรควบคุม โดยมิได้รับอนุญาต มีบทกำหนดโทษเป็นไปตามมาตรา 78 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 ระบุโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข โดย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พร้อมพนักงานเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม นำโดย พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี สำนักงานเขตพระนคร สำนักอนามัย และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ปฏิบัติการ บริเวณถนนข้าวสาร และ ซอยรามบุตรี ในเขตความรับผิดชอบ สน.ชนะสงคราม ได้ตรวจร้านค้ากัญชา จำนวน 14 ร้าน พบว่า มีใบอนุญาตและทำตามเงื่อนไขใบอนุญาตถูกต้อง จำนวน 9 ร้าน พักใช้ใบอนุญาตจำนวน 2 ร้าน
โดยร้านแรกพบว่ามีการเปิดให้สูบในสถานประกอบการ และร้านที่สองพบว่าไม่จัดทำรายงานข้อมูลไว้ ณ สถานประกอบการ ดำเนินคดีเนื่องจากจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต 3 ร้าน ร้านแรกลักษณะ เป็นร้านจำหน่ายขนาดใหญ่ แต่ยังไม่ได้รับการอนุญาต อีก 2 ร้าน เป็นหาบเร่ แผงลอย ทั้งนี้ได้เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการกัญชา ดำเนินการให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎหมาย เช่น ส่งแบบรายงานข้อมูลแหล่งที่มากัญชา การนำไปใช้ และจำนวนที่เก็บไว้จำหน่าย ณ สถานประกอบการ ตามกำหนดทุกสิ้นเดือน รวมถึงสื่อสารสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับประชาชน
กรมฯ ได้ถอดองค์ความรู้การใช้กัญชาของชาวบ้านทั้ง 4 ภูมิภาค พบว่า มีการใช้ในวิถีชีวิต เป็นทั้งอาหาร ยา เครื่องนุ่งห่ม เครื่องสำอาง เช่น ภาคเหนือ ใช้น้ำมันจากเมล็ด ทาผิว เส้นใย ทำเครื่องนุ่งห่ม ใช้ส่วนต่างๆ ของกัญชาในตำรับยาในการดูแลสุขภาพ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการผสมส่วนที่เป็นใบ ลำต้นกัญชาในเครื่องปรุงที่เรียกผงนัว ลดการใช้ผงชูรส ภาคกลาง ใช้ยอดกัญชาในอาหารประเภทแกง ต้ม และ ภาคใต้ มีการใช้ในตำรับอาหาร
ซึ่งจะเห็นได้ว่าในแต่ละพื้นที่มีการใช้กัญชาตามภูมิปัญญาท้องถิ่น ทั้งใช้กัญชาตามตำรับแพทย์แผนไทย หมอพื้นบ้าน ปราชญ์ชาวบ้าน บำรุงสุขภาพ กินได้ นอนหลับ และ ปรุงอาหาร มีการต่อยอดภูมิปัญญาและความรู้ของปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อสร้างนวัตกรรม รวมถึงศึกษาวิจัยการใช้กัญชาทางการแพทย์ นำไปสู่การขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์ จนกระทั่งขับเคลื่อนผลักดันยากัญชาแผนไทย สู่ชุดสิทธิประโยชน์และบัญชียาหลักแห่งชาติ และที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องคือการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพผ่านเครือข่ายสุขภาพในระดับชุมชน ส่งเสริม ป้องกัน และฟื้นฟูสุขภาพด้วยการแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือก ในหน่วยบริการสาธารณสุขทุกระดับและเป็นการเสริมสร้างเศรษฐกิจ
นายแพทย์เทวัญ กล่าวในตอนท้ายว่า กัญชาทางการแพทย์มีการใช้ทั้งแพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ หมอพื้นบ้าน และ แพทย์แผนจีน หรือแม้กระทั่งการพึ่งตนเองด้านสุขภาพของประชาชน ทำให้สิทธิเข้าถึงของกัญชาทางการแพทย์ของประชาชนเพิ่มขึ้น สำหรับมุมมองความคิด ความเห็น ประเด็นเรื่องของกัญชาที่หลากหลายนั้น กรมจึงมุ่งเน้นการสร้างความรอบรู้ที่ถูกต้องเหมาะสมให้แก่ประชาชน ให้เกิดความเข้าใจ เชื่อมั่น และใช้กัญชาทางการแพทย์ได้อย่างถูกต้องเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้าถึงการรักษากัญชาทางการแพทย์ได้มากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดีขึ้น อีกด้วย