คัดลอก URL แล้ว
อคส. คาด ได้ค่าเสียหายคดีทุจริตถุงมือยางภายในสิ้นปีนี้

อคส. คาด ได้ค่าเสียหายคดีทุจริตถุงมือยางภายในสิ้นปีนี้

หลังจากที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. มีมติชี้มูล ผู้เกี่ยวข้อง 22 ราย กรณีจัดซื้อถุงมือยางจำนวน 500 ล้านกล่อง ทั้งอดีตผู้บริหาร องค์การคลังสินค้า หรือ อคส. , อดีตประธานบอร์ด , ข้าราชการ และเอกชน

ด้านนายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการ อคส. ระบุความคืบหน้าการเรียกค่าเสียหายคดีทุจริตถุงมือยางว่า ป.ป.ช.ได้อายัดทรัพย์สินของ บริษัท การ์เดียน โกลฟส์ เป็นเงินราว 550 ล้านบาท , ที่ดินในจังหวัดสุราษฎร์ธานี 33 ไร่ และส่งเรื่องให้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.ตรวจสอบการฟอกเงิน

นอกจากนี้ อคส.ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า นอกจากทรัพย์สินที่ยึดไว้แล้ว ยังมีทรัพย์สินอื่นๆอีก คาดว่าจะได้รับเงินค่าเสียหายเพิ่มขึ้น ส่วนจะได้ครบ 2,000 ล้านหรือไม่นั้น ต้องรอการตรวจสอบ และคาดว่า อคส.จะได้รับค่าเสียหายคืนบางส่วน ภายในสิ้นปีนี้

ส่วนรูปคดี หลังจาก ป.ป.ช.ชี้มูล ก็ได้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดส่งฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริต ในส่วนของ อคส. เตรียมดำเนินการ 3 แนวทาง คือ ฟ้องแพ่ง , ความรับผิดทางละเมิดกรณีเจ้าหน้าที่รัฐถูกชีัมูลความผิด ซึ่งกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ , ฟ้องอาญาทุจริต ผู้ถูกชี้มูลทั้งหมด และฟ้องอาญาฟอกเงินและแพ่ง ผู้ถูกชี้มูลทั้งหมด ขณะนี้ อยู่ระหว่างรอสำนวนจาก ป.ป.ช. จากนั้นจะส่งมอบให้ ปปง. ดำเนินการ รวมถึงอายัดบัญชีตรวจสอบเส้นทางการเงินต่อไป

สำหรับคดีทุจริตจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง ระหว่าง อคส.และ บริษัท การ์เดียน โกลฟว์ มูลค่า 112,000 พันล้านบาท เกิดขึ้นเมื่อปี 2563 โดยมี พันตำรวจเอก รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ ขณะนั้นเป็นรักษาการผู้อำนวยการ อคส. ได้นำเงิน อคส.จำนวน 2,000 ล้านบาท ไปจ่ายเงินล่วงหน้าให้กับบริษัท การ์เดียน โกลฟว์ โดยไม่มีอำนาจ

และยังพบความไม่โปร่งใสด้านอื่นๆ เช่น สัญญาที่ใช้ในการลงนามก็ไม่ใช่สัญญาที่เคยใช้ในหน่วยงานของรัฐ และไม่ดำเนินการ ส่งร่างสัญญาให้สำนักงานอัยการสูงสุด ตรวจร่างสัญญารวมไปถึงเอกชนคู่สัญญา


ข่าวที่เกี่ยวข้อง