วิกฤต #สภาพภูมิอากาศ ที่ขณะนี้กำลังผกผันอย่างหนักจากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น จนไปถึงระดับอันตรายมาก เป็นสัญญาณว่าโลกอาจกำลังเข้าสู่ขั้นวิกฤต ขณะที่ทั่วโลกต่างให้ค่ำมั่นสัญญาในการหลีกเลี่ยงหายนะจากสภาพอากาศในครั้งนี้ นั่นคือ ‘การลดอุณหภูมิ 1.5 องศา’ เป็นสัญญาเพื่อกู้วิกฤตอุณหภูมิ
จากข้อมูลของกรีนพีซ (Greenpeace Thailand) ระบุว่า หากอุณหภูมิเฉลี่ยผิวโลกเพิ่มเป็น 2 องศาเซลเซียส (เทียบกับระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม) คลื่นความร้อนสุดขั้ว จะกลายเป็นความปกติใหม่ในช่วงฤดูร้อนของหลายๆ ประเทศที่อยู่ในเขตร้อน ส่งผลให้ประชากรกว่า 420 ล้านคนจะเผชิญกับผลกระทบอย่างแสนสาหัส
นอกจากนี้ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับระดับที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ประชากรกว่า 46 ล้านคนที่อาศัยตามแนวชายฝั่งทะเลทั่วโลกจะอยู่อาศัยในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมถาวรจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าและพรรณพืชอีกหลากหลายชนิด
▪️ สัญญาโลกที่ต้องทำ เลี่ยงหายนะจาก ‘สภาพอากาศ’
สำหรับการจับมือแก้ไขปัญหาวิกฤตนี้ ในการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 21 หรือ COP 21 ที่จัดขึ้นที่กรุงปารีสในปี พ.ศ. 2558 เห็นชอบใน “ความตกลงปารีส” โดยประเทศต่าง ๆ ได้ตั้งเป้าหมายร่วมกันที่จะพยายามรักษาการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยผิวโลกให้น้อยลงไปอีกจนถึงต่ำกว่า 1.5 องศาเซลเซียส
คำมั่นสัญญาดังกล่าวได้ถูกย้ำอีกครั้งในการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. 2564 ครั้งที่ 26 หรือ COP26 ที่เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร โดยมีการเร่งรัดให้ทุกประเทศต้องนำเสนอแผนลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ต่อสำนักเลขาธิการ UNFCCC ภายในสิ้นปีนี้ ทั้งยังได้ประกาศจุดยืนในการดำเนินการไปสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2050 อีกด้วย