พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ส่งชุด PCT5 ร่วมกับสืบสวนนครบาลลุยกัมพูชา ตามล่า “สาวหล่อ” อ้างเป็นแฟนของนางเอกระดับตำนาน ชื่อ ต. รายการนำเที่ยวหลังก่อวีรกรรมสุดแสบตระเวนฉ้อโกงเหยื่อ โดยเจาะตลาดไปที่กลุ่มผู้เสียหายที่เป็นเหล่าแฟนคลับดาราสาว
โดยผู้เสียหายบางรายกล่าวว่า สาวหล่อใช้จิตวิทยาเปิดภาพที่ได้ถ่ายกับดาราก่อนจะเชือดเหยื่อให้ลงทุนหุ้นสิงคโปร์ ซึ่งแท้จริงเป็น “หุ้นเก๊” เบื้องต้นพบว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อไม่ต่ำกว่า 20 ราย ซึ่งมีความเสียหายรวมไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท ได้มาขอความช่วยเหลือกับ ผบ.ตร. คดีนี้เป็นที่ฮือฮาในแวดวงบันเทิงช่วงปี 2565 จนมีผู้เสียหายบางรายตั้งข้อสังเกตุว่า ตัวนางเอกเอง “อาจมีเอี่ยว” กับสาวหล่อรายนี้หรือไม่
โดยจับกุมตัวได้ที่ ด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปลายปี พ.ศ.2563 ถึงห้วงกลางปี พ.ศ.2564 ได้เกิดเรื่องฉาวในแวดวงบันเทิง เมื่อได้เกิดเหตุหลอกลวงครั้งใหญ่เกิดขึ้น เหล่าผู้เสียหายได้ทยอยเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้ถูก “สาวหล่อ” ซึ่งอ้างว่าเป็นอดีตแฟนกับดารานางเอก “ระดับตำนาน” หลอกลวงเงิน โดยแผนประทุษกรรมการหลอกลวงเรียกได้ว่าสุดแสบ
โดยสายหล่อรายนี้จะแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มแฟนคลับของดาราสาวแล้วทำทีตีสนิท โดยจะโชว์พาวให้กับกลุ่มแฟนคลับว่าตนเองนั้นเป็นแฟนกับดาราสาว ซึ่งแรกเริ่มนั้นเหยื่อต่างยังไม่เชื่ออย่างสนิทใจ ซึ่งผู้เสียหายรายหนึ่งได้กล่าวว่า สาวหล่อรายนี้ใช้จิตวิทยาด้วยการเปิด ภาพ ที่ได้ถ่ายกับดาราสาว นอกจากนั้นบางรายสาวหล่อรายนี้ถึงขนาดเปิดเทปบันทึกเสียงการสนทนาของสาวหล่อกับดาราสาวให้ฟัง
ซึ่งทำให้เหล่าผู้เสียหายเชื่ออย่างสนิทใจว่าสาวหล่อรายนี้เป็นแฟนของดาราสาวจริงๆ ซึ่งเมื่อเหยื่อเริ่มหลงกลจิตวิทยาของสาวหล่อแล้ว ก็เริ่มเข้าสู่กระบวนการหลอกลวง เบื้องต้นพบว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อไม่ต่ำกว่า 20 ราย ซึ่งมีความเสียหายรวมไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองเป็นแฟนกับดารานางเอกจริง โดยรู้จักกันมาเป็นเวลาเกือบ 30 ปี แล้ว และได้หลอกลวงเงินจากผู้เสียหายมาจริงๆ แต่ไม่ได้หลอกเยอะอย่างที่ผู้เสียหายได้แจ้งความ และที่ผู้เสียหายไปออกรายการแล้วกล่าวอ้างว่าตนเปิดภาพลับของดารานางเอกนั้นไม่เป็นความจริง ส่วนเรื่องที่นางเอกสาวมีเอี่ยวหรือไม่นั้นตนเองไม่ขอพูด ไม่อยากให้ดารานางเอกสาวเสียชื่อเสียง”
โดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้นำทีมขยายผลการจับกุมที่ บก.สส.บช.น. เพื่อติดตามเส้นทางทรัพย์สินที่ได้จากผู้เสียหายไป ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป