8 เมษายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และ คณะกรรมการทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัย คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน จังหวัดน่าน นับเป็นการขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรกหลังได้รับเสนอชื่อเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เพื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30
นายเศรษฐา ปราศรัยด้วยการเริ่มต้นว่า ตัวเองมั่นใจว่าจะสามารถทำความฝันของคนน่านและคนไทยให้เป็นจริง นำพาคนไทยหลุดพ้นจากหลุมดำความยากจน ด้วยนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่โดนใจ ทั้งกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ในรัศมี 4 กิโลเมตร ถ้าครอบครัวมี 4-5 คนเท่ากับมีเงิน 4-5 หมื่นบาท เพียงพอไปสร้างอาชีพหรือตั้งตัวได้ ต่างจากรัฐบาลปัจจุบันที่มาหยอดน้ำข้าวต้ม ทีละ 500-1,000 บาท ซึ่งหลังประกาศออกไป มีหลายพรรคการเมืองตั้งคำถามว่าทำได้จริงหรือไม่ แต่ส่วนตัวเชื่อว่า นี่คือนิมิตหมายที่ดีว่าเป็นนโยบายที่โดนใจ พรรคเพื่อไทยทำได้แน่นอน พร้อมเดินหน้านำนวัตกรรมใหม่ๆ ทางการเงินพาพี่น้องประชาชนหลุดพ้นหลุมดำแห่งความยากจน
นายเศรษฐากล่าวว่า จากที่เมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว ได้รับเลือกเป็นมรดกโลก ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับเมืองน่านทั้งขนบธรรมเนียมประเพณี ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะเสนอให้เมืองน่านเป็นมรดกโลกคู่กับหลวงพระบาง พร้อมผลักดันให้สนามบินน่านเป็นสนามบินนานาชาติ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางมาเที่ยวเมืองน่าน และจังหวัดอื่นๆ เช่น แพร่ ลำปาง ทำให้เมืองรองมีความเจริญก้าวหน้าตามไปด้วย นอกจากนี้ ปัญหา PM 2.5 ที่คนเมืองน่านเผชิญอยู่จากการปลูกข้าวโพดและเผาซังข้าวโพด พรรคเพื่อไทยเสนอวิธีแก้ปัญหาโดยนำซังข้าวโพดนำมาทำอาหารสัตว์ ถ่านไร้ควัน ทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์ได้ ก่อให้เกิดรายได้ พร้อมนำนวัตกรรมการปลูกพืชยืนต้น เช่น กาแฟ ไผ่ อะโวคาโด มาเสริม หากมีที่ดินปลูกข้าวโพด 100 ไร่ จะตัดมา 10-15 ไร่ ปลูกไม้ยืนต้น สร้างรายได้อีกทางพร้อมลด PM2.5 ไปในตัว
“ที่พูดมาจะเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าหากไม่เลือกพรรคเพื่อไทยเบอร์ 29 ที่ผ่านมานายแพทย์ชลน่านตั้งเป้าตัวเลขที่ 250 ถึง 310 เสียงขึ้นไป แต่ส่วนตัวผมมองว่าอาจไม่พอ ต้อง 375 เสียงขึ้นไปเพื่อจัดตั้งเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ดูแลได้ทุกกระทรวง ไม่ใช่เฉพาะกระทรวงใหญ่ เช่น กระทรวงวัฒนธรรมถือว่าเป็นกระทรวงสำคัญสำหรับคนน่าน เพราะดูแลเรื่องมรดกโลก ดังนั้น ขอให้เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ทั้ง 3 เขต เพื่อให้พรรคเพื่อไทยสามารถนำนโยบายที่ดีๆ มาให้พี่น้องประชาชนได้อยู่ดีกินดี มีความสุข หลุดพ้นจากหลุมดำแห่งความยากจนสำเร็จ” นายเศรษฐากล่าว