พรรคเพื่อชาติได้จัดแถลงข่าวและออกแถลงการณ์ สืบเนื่องจากกรณีที่มีหลายฝ่ายกังวลเกี่ยวกับการที่พรรคเพื่อชาติประกาศส่ง นายวรัญชัย โชคชนะ ลงสมัครรับเลือกตั้ง เขต 1 เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตสัมพันธวงศ์ เขตดุสิต (ยกเว้นแขวงถนนนครไชยศรี) และ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ในนามพรรคเพื่อชาติ
นางสาวชุติมา กุมาร ในฐานะโฆษกพรรคเพื่อชาติ ก็ได้ระบุว่า ในนามพรรคเพื่อชาติ ขอชี้แจงและขอน้อมรับในข้อกังวลความห่วงใยจากทุกคนที่ส่งมายังพรรคเพื่อชาติและขอบพระคุณในความหวังดีของทุกท่าน ซึ่งในกรณีของนายวรัญชัย นั้นคณะกรรมการสรรหาของพรรคเพื่อชาติได้มีมติเห็นตรงกันยืนยันว่าจะส่ง นายวรัญชัย ลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพฯในนามพรรคเพื่อชาติ ด้วยเหตุผลที่ว่าคำครหาที่บอกว่า นายวรัญชัย หิวแสงนั้นพรรคเพื่อชาติมองว่า เป็นการหิวแสงที่น่ายกย่อง เพราะเป็นแสงแห่งประชาธิปไตย เพราะอย่างน้อยเขาก็เป็นคนหนึ่งที่ออกมาเรียกร้องให้เกิดความยุติธรรมในสังคม ไม่นิ่งดูดายปล่อยให้ความอยุติธรรมกลืนกินความถูกต้องของสังคมลงไป รวมทั้งที่มีหลายคนอาจมองว่า นายวรัญชัย เป็นเหมือนตัวตลกทางการเมือง แต่สำหรับพรรคเพื่อชาติ นายวรัญชัย ถือเป็น “สมบัติมีค่าของฝ่ายประชาธิปไตย”ที่ควรยกย่องและให้โอกาส
ด้าน พล.ต.ต.ดร.ชยุต มารยาทตร์ ผู้อำนวยการเขตเลือกตั้งส.ส.กรุงเทพมหานคร ระบุในเรื่องนี้ว่า ส่วนตัวได้มีโอกาสพบกับ นายวรัญชัย มาโดยตลอด และก็ยอมรับว่า นายวรัญชัย เป็นคนหนึ่งที่ลงสมัครรับเลือกตั้งมากที่สุดแต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยได้รับการเลือกเลย ครั้งนี้เมื่อมีโอกาสได้พบและพูดคุยกันอีกครั้งจึงได้สอบถามเหตุผลว่าทำไมจึงเลือกที่จะเดินเข้ามาสมัครในนามตัวแทนของพรรคเพื่อชาติ ซึ่งเหตุผลแรกที่ นายวรัญชัยชี้แจงก็คือที่ผ่านมาไม่มีพรรคการเมืองใดเปิดโอกาสหรือต้อนรับให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคหรือไม่ให้โอกาสที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในนามของพรรคการเมืองนั้นๆเลยแต่พอได้เห็นพรรคเพื่อชาติที่ประกาศจุดยืนว่าเป็นพรรคที่ยึดหลักประชาธิปไตยและยังเป็นพรรคที่เน้นย้ำเรื่องความเท่าเทียมและความเสมอภาคจึงตัดสินใจเดินทางมาที่พรรคเพื่อชาติ ซึ่งส่วนตัวได้เห็นความตั้งใจของ นายวรัญชัย ที่มีมาอย่างเต็มเปี่ยม จึงได้เชิญคณะกรรมการสรรหารวมถึงกรรมการบริหารของพรรคมาร่วมพูดคุยกันและได้เห็นถึงแนวคิดของ นายวรัญชัย ที่ว่า
“ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนหิวแสงแต่ว่าเป็นการหิวแสงแห่งประชาธิปไตย” ต้องการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยไม่เคยมีใจที่จะไปอยู่ข้างฝ่ายเผด็จการและตอนนี้ก็อายุ 70 กว่าแล้วการลงรับสมัครเลือกตั้งครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตจึงอยากจะขอโอกาสสุดท้ายจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนเพื่อเข้ามาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของคนกรุงเทพฯที่มาในนามของพรรคเพื่อชาติซึ่งเป็นพรรคการเมืองพรรคแรกที่ให้โอกาส” และเพราะคำพูดที่จริงใจของ นายวรัญชัย จึงทำให้กรรมการบริหารพรรครวมถึงคณะกรรมการสรรหาของพรรคตัดสินใจและเห็นตรงกันว่าจะสนับสนุนให้ นายวรัญชัย ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามของพรรคเพื่อชาติ
ด้าน ร.อ.ดร. นายจารุพล เรืองสุวรรณ ประธานยุทธศาสตร์พรรค ระบุว่า วันนี้พรรคเพื่อชาติได้แสดงให้เห็นว่าจุดยืนของพรรคเพื่อชาติคืออะไรสิ่งที่เราพูดกันมาเสมอคือเราต้องการเอาชนะความเหลื่อมล้ำให้ได้เพราะนี่คือหัวใจสำคัญของพรรคเพื่อชาติเพราะเราต้องการสร้างความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นในสังคมต่อสู้กับการผูกขาดการเอารัดเอาเปรียบเพื่อให้พี่น้องประชาชนทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นคนเท่ากัน ซึ่งกรณีของ นายวรัญชัย ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่วันนี้เราได้เห็นหลายคนให้ความเป็นห่วงเป็นใยแต่บางคนก็มาในลักษณะของ
การบูลลี่ การด้อยค่า ดูถูดูแคลนกันโดยเน้นไปที่รูปลักษณ์ภายนอก แต่ก็อย่างที่โฆษกของพรรคเพื่อชาติได้ชี้แจงไปในเบื้องต้นว่าพรรคเพื่อชาติเห็นว่า นายวรัญชัยเป็นเหมือนสมบัติที่มีค่าของฝ่ายประชาธิปไตยที่พรรคเพื่อชาติมองว่าคนแบบ
นายวรัญชัย ไม่ได้มีเยอะและไม่ได้มีเกิดขึ้นบ่อยๆในสังคมเพราะที่ผ่านมานักการเมืองส่วนใหญ่จะเลือกลงสมัครรับเลือกตั้งก็ต่อเมื่อมั่นใจว่าตัวเองจะชนะการเลือกตั้งเท่านั้นแต่สำหรับนายวรัญชัยแม้จะรู้ว่าลงสมัครรับเลือกตั้งไปจะไม่ได้รับชัยชนะแต่ก็เลือกที่จะสู้ พรรคเพื่อชาติจึงเห็นว่านายวรัญชัย เป็นนักสู้ที่น่ายกย่องคนหนึ่ง และพรรคเพื่อชาติก็อยากจะเริ่มทุกอย่างที่พรรคของเราเพื่อที่จะได้เป็นตัวอย่างให้กับทุกๆคนในสังคมให้ได้เห็นว่านี่คือการให้โอกาสเพราะพรรคเพื่อชาติเน้นย้ำเสมอว่าโอกาสคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของทุกคน