วันนี้ (1 เมษายน 256) เวลา 14.00 น. ณ โรงเรียนอนุบาลลาดยาว อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีกำกับดูแลสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) เป็นประธานเปิดงาน “สร้างเศรษฐกิจฐานราก สร้างชาติมั่นคง” ภายใต้โครงการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก เพื่อการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน จัดโดยสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) โดยมี นายสุวัฒน์ จันทร์สุข ปลัดจังหวัดนครสวรรค์ นายกฤษณ์พีรัช คมสุรศิษฐ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองชาติ นายธัชชญาณ์ณัช เจียรธนัทกานนท์ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน ฯ ร่วมงาน
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญ และเชื่อมั่นในความเข้มแข็งของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ซึ่งมีอยู่ทุกหมู่บ้านและชุมชนทั่วประเทศ 79,610 แห่ง มีสมาชิกทั่วประเทศกว่า 13 ล้านคน นับว่าเป็นกำลังหลักในการสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานรากของประเทศ จึงได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลากว่า 21 ปี และก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ มีนโยบายที่ต้องการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างจริงจัง ขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมสำเร็จแล้ว อาทิ โครงการพักชำระหนี้กองทุนหมู่บ้านฯ โครงการนำร่อง ตามโมเดลเศรฐกิจ BCG กองทุนหมู่บ้านฯ และโครงการสำคัญที่จะทำให้พี่น้องสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ กลับมาลืมตาอ้างปากได้ กินดี อยู่ดี มีความสุข มีรายได้ และหายจากความยากจน ผ่านโครงการ “โคล้านครอบครัว”
นายอนุชา ย้ำการเลี้ยงโค ทำได้ไม่ยาก สามารถคืนทุนได้เร็ว ประชาชนสามารถปลดหนี้ เพราะเชื่อมั่นว่า การทำปศุสัตว์ เช่น การเลี้ยงโค จะเป็นทางออกที่ช่วยให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะโคเลี้ยงไม่ยาก กินแต่หญ้า ภายใน 1 ปีโคออกลูก สามารถทำเงิน ปลดหนี้ได้ ปีต่อ ๆ ไป จะมีจำนวนวัวเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ หากเลี้ยงดีๆ พี่น้องกองทุน ฯ มีโอกาสร่ำรวย ได้จับเงินล้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางรัฐบาล คาดหวังให้เศรษฐกิจฐานรากมีเงินหมุนเวียนในครัวเรือนเพิ่มขึ้น มีกำลังซื้อที่จะส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศได้ในอนาคต ขอให้พี่น้องสมาชิกกองทุนฯ ชาวนครสวรรค์และจังหวัดใกล้เคียง มีความอดทน มุ่งมั่น ตั้งใจ จะเงินแสนหรือเงินล้านก็ไม่ไกลเกินเอื้อม
ทางด้าน ตัวแทนสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ จ. นครสวรรค์ กล่าวขอบคุณรัฐบาลที่ได้ส่งเสริมโครงการเลี้ยงโค ถือเป็นโครงการที่ดี สร้างความมั่นคงให้กับชาวบ้าน และเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ที่มีความแน่นอน ถ้าเทียบกับการทำอาชีพเกษตรชนิดอื่นๆ ซึ่งต้องอาศัยปัจจัยหลายๆ อย่าง แต่อาชีพเลี้ยงโค เป็นอาชีพที่ทำได้ง่าย เหมาะกับบริบทและสังคมของพี่น้องตามชนบทต่างๆ
สำหรับการจัดงาน “สร้างเศรษฐกิจฐานราก สร้างชาติมั่นคง” ในวันนี้ เป็นการจัดงานครั้งที่ 2 ถือเป็นเวทีแสดงผลงานและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างสมาชิกกองทุน ฯ และประชาชนที่สนใจ ส่งต่อแนวคิดสู่กองทุนหมู่บ้าน ฯ ในพื้นที่ต่างๆ ตลอดจนเป็นการส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ เพื่อพัฒนาทักษะโมเดลเศรษฐกิจ BCG ในบริบทของแต่ละพื้นที่ เพื่อนำไปต่อยอดและพัฒนาการบริหารงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองให้เกิดความเข้มแข็ง ซึ่งการจัดงานในวันนี้ มีสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน จาก 5 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์, พิจิตร, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์, อุทัยธานี เข้าร่วมงาน
ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย เช่น เสวนากองทุนหมู่บ้านต้นแบบ “ทำแล้ว ทำง่าย ทำได้…ไม่ยาก” โดยโครงการแพบางพระหลวง กองทุนหมู่บ้านท่าดินแดง หมู่ที่ 2 ตำบลบางพระหลวง อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ที่มีการใช้พื้นที่ “หนองต้น” สร้างแหล่งท่องเที่ยว โดยการสร้างแพลอยน้ำ ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Upskill เรื่อง “โครงการโคล้านครอบครัว” จากผู้เชี่ยวชาญ, กิจกรรม Business Matching เพื่อต่อยอดโอกาสทางการค้า และกิจกรรมการจัดแสดงนิทรรศการเพื่อเผยแพร่องค์ ความรู้ของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อนำความรู้ที่ได้กลับไปพัฒนาชุมชนเมืองของตนอย่างยั่งยืนต่อไป โดยครั้งต่อไปจะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ในวันที่ 10 เมษายน 2566 ณ จังหวัดนครศรีธรรมราช ขอเชิญชวนพี่น้องกองทุนฯ ชาวนครศรีธรรมราช และพื้นที่ใกล้เคียงเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว เพื่อจะได้รับความรู้นำจากผู้ที่ประสบความสำเร็จ และผู้เชี่ยวชาญไปพัฒนาต่อยอดสร้างอาชีพ สร้างรายได้ต่อไป