กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.พัฒนา ฉายาวัฒน์ รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ.,พ.ต.ท.วีระชน หล่าสกุล, พ.ต.ท.วิวัฒน์ชัย คลื่นแก้ว, พ.ต.ท.กริช วรทัต และ พ.ต.ท.ภูวเดช จุลกะเสวี รอง ผกก.5 บก.ปอศ.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.กริช วรทัต รอง ผกก.5 บก.ปอศ., พ.ต.ต.วรวุฒิ คงรักษา,
พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ มอญรัต, พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ จันทพันธ์, ว่าที่ พ.ต.ต.ฉัตรดนัย ทองคลอด สว.กก.5 บก.ปอศ. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ.ร่วมกันจับกุม
1.นายทศพลฯ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 893/2566 ลงวันที่ 24 มี.ค.2566
2.นายยุทธนาฯ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 894/2566 ลงวันที่ 24 มี.ค.2566
3.นายศักดิ์รินทร์ฯ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 895/2566 ลงวันที่ 24 มี.ค.2566
4.นายเกียรติศักดิ์ฯ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 896/2566 ลงวันที่ 24 มี.ค.2566
โดยกล่าวหากระทำผิดฐาน ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต, เรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และร่วมกันกระทำการทวงถามหนี้ในลักษณะ การข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกายชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น
และกล่าวโทษนายศักดิ์รินทร์ฯ กับพวก อีก 7 ราย ได้แก่
- นายนฤพนธ์ฯ อายุ 27 ปี
- นายกฤตฯ อายุ 23 ปี
- นายสุทัศน์ฯ อายุ 27 ปี
- นายพรชัยฯ อายุ 29 ปี
- นายปรีชาฯ อายุ 28 ปี
- นายชัยชิดฯ อายุ 37 ปี
- นายคชสารฯ อายุ 21 ปี
ในความผิดฐาน ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต
พร้อมตรวจยึดของกลาง ดังนี้
1.คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 13 เครื่อง
2.โทรศัพท์ 38 เครื่อง
3.ซิมการ์ดประมาณ 50 อัน
4.เช็คค้ำประกันของลูกหนี้ 22 ใบ มูลค่ารวม 7,990,000 บาท
5.รถยนต์หรูยี่ห้อ Mercedes Benz, BMW, TOYOTA, Hyundai ของลูกหนี้ 4 คัน
สถานที่จับกุม พื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ พิจิตร และ จันทบุรี ในวันที่ 27 มีนาคม 2566
พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจาก เมื่อประมาณต้นปี 2565 ได้มีพลเมืองดีซึ่งเป็นผู้ประกอบการ SME (ผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย) แจ้งเบาะแสของกลุ่มเครือข่ายเงินกู้ออนไลน์นอกระบบผ่านเว็บไซต์ “Burin-credit” (บุรินทร์เครดิต) มายัง ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปน.ตร.) ซึ่งเครือข่ายดังกล่าวมีพฤติการณ์เรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่สูงมาก โดยผู้ประกอบธุรกิจฯ ซึ่งขอกู้นั้น จะต้องจ่ายดอกเบี้ยรายวันในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อวัน หรือ ร้อยละ 547.5 ต่อปี จนกว่าจะมีเงินต้นมาชำระ อันเป็นการคิดดอกเบี้ยที่เอารัดเอาเปรียบ ซ้ำเติมประชาชน และ ผู้ประกอบธุรกิจฯ ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ หลังผ่านวิกฤตโรคระบาดโควิด 19 พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. จึงสั่งการให้กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ดำเนินการสืบสวนสอบสวน และจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ. เปิดเผยว่า จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มคนร้ายมีการเปิดเว็บไซต์ www.burin-credit.com เพื่อชักชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปกู้เงิน โดยกลุ่มเป้าหมายเน้นไปที่กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และ ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนถูกกฎหมายได้ ขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อของเว็บไซต์ดังกล่าวไม่จำเป็นต้องใช้หลักฐานยืนยันตัวตน และไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน ในกรณีที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจฯ กลุ่มคนร้ายจะไปสำรวจกิจการเพื่อประกอบการพิจารณา เมื่อสินเชื่ออนุมัติแล้วกลุ่มคนร้ายจะโอนเงินไปให้ผู้กู้ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้งของธนาคารไปยังบัญชีธนาคารของผู้กู้ โดยกลุ่มคนร้ายจะหักยอดเงินกู้เป็นดอกเบี้ยงวดแรกไว้ก่อน หากลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ ก็จะใช้วิธีการโทรศัพท์ข่มขู่ และไประรานผู้กู้ถึงที่บ้าน, ที่ทำงาน หรือ สถานประกอบการ ซึ่งการกระทำของกลุ่มคนร้ายเป็นการกระทำที่
อุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง และจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ากลุ่มคนดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนในบัญชีช่วงระยะเวลา 1 ปี กว่า 1,000 ล้านบาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนสามารถพิสูจน์ทราบกลุ่มผู้ร่วมขบวนการได้แล้ว จำนวน 4 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการสืบสวนจนทราบแหล่งที่กบดานของกลุ่มคนร้าย จนกระทั่งวันที่ 27 มีนาคม 2566 พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ. สั่งการให้ พ.ต.ท.กริช วรทัต รอง ผกก.5 บก.ปอศ. นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้น บ้านพัก และ สำนักงานของกลุ่มคนร้าย ซึ่งอยู่ในพื้นที่ จ.พิจิตร, จ.สมุทรปราการ, จ.จันทบุรี และกรุงเทพมหานคร ผลการปิดล้อมตรวจค้น สามารถจับกุม
1.นายทศพลฯ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 893/2566 ลงวันที่ 24 มี.ค.2566
2.นายยุทธนาฯ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 894/2566 ลงวันที่ 24 มี.ค.2566
3.นายศักดิ์รินทร์ฯ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 895/2566 ลงวันที่ 24 มี.ค.2566
4.นายเกียรติศักดิ์ฯ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 896/2566 ลงวันที่ 24 มี.ค.2566
และจากการตรวจค้นบ้านพักในพื้นที่ จ.กรุงเทพมหานคร ของนายศักดิ์รินทร์ฯ พบบุคคลอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดเพิ่มเติม ดังนี้
- นายนฤพนธ์ฯ อายุ 27 ปี
- นายกฤตฯ อายุ 23 ปี
- นายสุทัศน์ฯ อายุ 27 ปี
- นายพรชัยฯ อายุ 29 ปี
- นายปรีชาฯ อายุ 28 ปี
- นายชัยชิดฯ อายุ 37 ปี
- นายคชสารฯ อายุ 21 ปี
โดยนายศักดิ์รินทร์ฯกับพวกดังกล่าวได้ลักลอบประกอบธุรกิจให้สินเชื่อผ่าน เพจเฟสบุ๊ค Memoney-credit https://www.facebook.com/profile.php?id=100083184674046 ให้ผู้ประกอบธุรกิจฯยืมเงิน โดยคิดอัตราดอกเบี้ย รายวันในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อวัน หรือ ร้อยละ 547.5 ต่อปี จนกว่าจะมีเงินต้นมาชำระคืน หากขอกู้ในวงเงินที่สูงจะให้ผู้กู้ออกเช็คค้ำประกันเงินกู้ไว้ หรือหากมีทรัพย์สินอื่นๆ เช่น รถยนต์ จะให้นำมาจอดไว้เพื่อเป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงิน จากนั้นได้เชิญตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน
กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหารับว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับจริง และได้ประกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ผ่านเว็บไซต์ www.burin-credit.comจริง โดยต่อมานายศักดิ์รินทร์ฯ ได้ร่วมกับพวกอีกจำนวน 7 คน ได้แยกตัวออกมาประกอบธุรกิจสินเชื่อผ่านเพจเฟสบุ๊ค Memoney-credit แต่ปฏิเสธว่าไม่เคยข่มขู่ลูกหนี้แต่อย่างใด
กองบัญชาการสอบสวนกลาง (CIB) ขอฝากเตือนภัยถึงประชาชน อย่าหลงเชื่อกู้เงินจากแหล่งเงินกู้ ผิดกฎหมาย เนื่องจากต้องรับภาระดอกเบี้ยที่สูงกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และยังอาจเสี่ยงต่อการถูกข่มขู่ คุกคามจากการทวงถามหนี้ จนเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายต่อชีวิตร่างกายและทรัพย์สิน หากต้องการตรวจสอบแหล่งเงินกู้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย สามารถตรวจสอบใบอนุญาตการปล่อยสินเชื่อได้ที่ช่องทาง ดังนี้
1.ธนาคารแห่งประเทศไทย เว็บไซต์ https://www.bot.or.th/app/BotLicenseCheck
2.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เว็บไซต์ http://www.1359.go.th/picodoc/comp.php
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ต.วรวุฒิ คงรักษา สว.กก.5 บก.ปอศ. โทร.082-4818813
“ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด”