แม้จะมีข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ระบุว่า บุหรี่ไฟฟ้าปลดปล่อยไอที่มีนิโคติน และสารที่เป็นพิษอื่นๆ เป็นอันตรายต่อทั้งผู้สูบและผู้ที่ได้รับไอมือสอง ทั้งยังไม่การันตีว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่ธรรมดา รวมถึงงานวิจัยอื่นๆในต่างประเทศ ที่ชี้ชัดว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าทำให้เซลล์ถูกทำลาย เสี่ยงโรคปอด หัวใจ มะเร็ง แต่ด้วยปัจจุบันจากการทำการตลาดของอุตสาหกรรมยาสูบที่พุ่งเป้าไปยังเด็กและเยาวชน ออกแบบบุหรี่ไฟฟ้าให้มีความทันสมัย เป็นมิตรกับผู้ใช้ ทำให้เกิดกระแสนิยมบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กและเยาวชน ตลอดจนเกิดข้อถกเถียงในสังคมถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าว่ามากหรือน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดา
ไม่เพียงแต่มุมมองที่แตกต่างและการอ้างอิงข้อมูลทางวิชาการเรื่องโทษและอันตรายของบุหรี่ธรรมดาและบุหรี่ไฟฟ้าเท่านั้น ยังมีการตั้งคำถามที่น่าสนใจอีกหนึ่งประเด็น ถึงกรณีที่กัญชาถูกกฎหมาย แต่บุหรี่ไฟฟ้ายังผิดกฎหมาย และนำมาสู่การจัดงานเสวนาวิชาการ “กัญชาเสรีแล้ว บุหรี่ไฟฟ้าควรถูกกฎหมายได้หรือยัง” จัดโดยองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) ศูนย์รังสิต จ.ปทุมธานี โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมเสวนา ประกอบด้วย นายธาราธร นิลจรัสวณิช ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีนครรังสิต นายกมลวัฒน์ มนูญภัทราชัย อดีตประธานสภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รวมถึงนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
“หากวันนี้เราเข้าไปยังสถานที่รวมกลุ่มของเด็กและเยาวชน เช่น สถานบันเทิง หรือสนามฟุตบอล เราจะพบว่าเด็กและเยาวชนจำนวนไม่น้อยห้อยบุหรี่ไฟฟ้าที่คอลงมาเล่นฟุตบอลในสนามกันหมดแล้ว ซึ่งจากเดิมทราบกันดีว่านักกีฬากับบุหรี่เป็นของตรงข้ามกัน เนื่องจากจะทำให้สุขภาพของนักกีฬาไม่แข็งแรง แต่พอมีบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาความเข้าใจของเด็กและเยาวชน โค้ชนักกีฬา เปลี่ยนแปลงทัศนคติไปหมด ซึ่งเรื่องนี้เป็นความตั้งใจของผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้าที่มุ่งเป้าไปยังเด็กและเยาวชนและสร้างภาพให้เชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัย แท้จริงแล้วบุหรี่ไฟฟ้ายังคงมีนิโคตินไม่แตกต่างจากเดิม” เป็นสิ่งที่ ‘พชรพรรษ์ ประจวบลาภ’ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย สะท้อนในเวทีเสวนา “กัญชาเสรีแล้ว บุหรี่ไฟฟ้าควรถูกกฎหมายได้หรือยัง” ถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าที่มีต่อเด็กและเยาวชนไทย
พชรพรรษ์ ยังสะท้อนอีกด้วยว่าสาเหตุของการเกิดกระแสนิยมบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กและเยาวชนในไทย มีผลมาจากการทำการตลาดของอุตสาหกรรมยาสูบที่พุ่งเป้าไปยังเด็กและเยาวชน ออกแบบบุหรี่ไฟฟ้าให้มีความทันสมัย ภาพลักษณ์บุหรี่ไฟฟ้าเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน มีกลิ่นหอม และทำให้การตรวจจับทำได้ยากลำบาก และรูปลักษณ์ของบุหรี่ไฟฟ้ายังมีความใกล้เคียงกับเครื่องเขียนของนักเรียน นักศึกษา รวมถึงครูและผู้ปกครองยังขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าที่ถูกต้อง
โดยตนเองยังยืนยันว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายต่อสุขภาพของเด็กและเยาวชนอย่างมาก และบุหรี่ไฟฟ้ามีส่วนผสมของนิโคตินเช่นเดียวกับบุหรี่ซองและมีผลต่อระบบสมอง ทำให้การพัฒนาการทางด้านร่างกายของเด็กและเยาวชนที่อยู่ระหว่างการเจริญเติบโตเป็นไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ
นายศิรชัช หาญวิวัฒนกูล ผู้แทนนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หยิบยกงานวิจัยคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซาท์เทิร์น แคลิฟอร์เนีย ที่ระบุว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าส่งผลให้ดีเอ็นเอของเซลล์ในช่องปากถูกทำลายไม่ต่างจากการสูบบุหรี่ธรรมดา ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ รวมถึงโรคมะเร็ง โดยคนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าพบดีเอ็นเอของเซลล์เยื่อบุช่องปากถูกทำลายเป็น 2.6 เท่า ส่วนคนที่สูบบุหรี่ธรรมดาพบดีเอ็นเอถูกทำลายเป็น 2.2 เท่าเมื่อเทียบกันคนที่ไม่มีประวัติสูบบุหรี่
รวมทั้งสารประกอบและสารทำละลายต่างๆ ในบุหรี่ไฟฟ้า ยังพบโพรไพลีนไกลคอล เป็นส่วนประกอบสำหรับทำให้เกิดไอระเหย กลีเซอรีน เป็นสารเพิ่มความชื้นที่จะผสมกับสารโพรไพลีนไกลคอล แม้องค์การอาหารและยา (FDA) สหรัฐอเมริกา ยืนยันถึงความปลอดภัยว่าใช้ได้ทั้งในอาหารและยา แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันถึงความปลอดภัยว่าเมื่อกลายสภาพเป็นไอที่สูบหรือสูดแล้วเกิดผลกระทบอย่างไรต่อร่างกาย ดังนั้นจึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามีความปลอดภัยต่อประชาชน จึงเห็นตามที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอให้มีการคงไว้ซึ่งมาตรการควบคุมไม่ให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย