สคบ. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนแจ้งเบาะแสมีการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า มอมเมา เด็กและเยาวชนอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายหรือผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสุขภาพของประชาชนผู้บริโภค บริเวณซอยงามวงศ์วาน 47 แยก 40 ใกล้มหาวิทยาลัยชื่อดัง

วันนี้ 21 มี.ค. 2566 เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ จึงสั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ นำโดย นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการส่วนบังคับคดี รองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ นายฤทธิรอน ทวีทรัพย์ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ พร้อมเจ้าหน้าที่รวม 6 นาย สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ทุ่งสองห้อง นำโดย พ.ต.ต. ณัฐวัฒน์ ทัชศรีษะภูมิ สวป.สน.ทุ่งสองห้อง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบมีนายนุ๊กกำลังเปิดร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าที่เข้ามาติดต่อขอซื้อบุหรี่ไฟฟ้าตามที่มีการแจ้งเบาะแสจริง พนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อดำเนินการยึดบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า

จากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวนายนุ๊กไปที่สน.ทุ่งสองห้องเพื่อสอบปากคำดำเนินคดี เมื่อขยายผลก็ได้ทราบว่านายแป๊กเป็นเจ้าของร้านโดยมีการจ้างนายนุ๊กให้ขายให้ และเมื่อขายบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าได้ก็จะมีการโอนเงินที่ขายได้เข้าบัญชีของนายแป๊กทุกวัน พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาทั้งสองรายดำเนินคดีฐานร่วมกันขายบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3 ปี ปรับไม่เกิน 600,000 บาทหรือทั้งจำและปรับ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 และความผิดตามกฎหมายศุลกากร

ทั้งนี้ สคบ. ขอเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าหรือน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า หากพบจะดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดทุกราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขายให้เด็กและเยาวชนหรือใกล้สถานศึกษาถือเป็นการมอมเมาเด็กและเยาวชนทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพระยะยาว จากการปฏิบัติการครั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถยึดบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ได้จำนวนทั้งสิ้น 5,440 รายการ รวมมูลค่าของกลางประมาณ 500,000 บาท