นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งกรุงเทพฯ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พื้นที่กรุงเทพมหานครกว้างใหญ่ เป็นเมืองหลวงและเป็นหัวใจสำคัญของประเทศ ถ้าคิดแบบเดิม ทำแบบเดิม ก็ได้แบบเดิม หากจะพัฒนากรุงเทพไปข้างหน้า พรรคภูมิใจ จึงขอแบ่งพื้นที่กรุงเทพฯเป็น 4 กลุ่มพื้นที่ โดยมองจากสภาพแวดล้อมและปัญหา มีกรุงเทพฯชั้นใน ,กรุงเทพฯเหนือ, กรุงเทพฯตะวันออก และกรุงเทพฯฝั่งธน เพื่อเอื้อต่อการแก้ปัญหาให้ตอบโจทย์และความต้องการของพี่น้องประชาชน ซึ่งจากการลงไปติดตาม รวมรวบรับฟังปัญหาจากพื้นที่ ซึ่งแต่ละพื้นที่มีปัญหาและความต้องการที่แตกต่างกัน โดยต้องมีวิธีแก้ปัญหาที่แตกต่างกันด้วยนโยบาย ซึ่งพรรคเตรียมพร้อมไว้แล้ว พร้อมระบุด้วยว่า พรรคภูมิใจไทย คัดเลือกคนทำงานจริง มาจากในพื้นที่ ที่สำคัญมีอดีตส.ส.กทม.ถึง 8 เขต พร้อมจะทำงานให้คนกรุงเทพฯอย่างจริงต่อเนื่อง และทั้ง 33 ว่าที่ผู้สมัครล้วนเป็นคนที่พร้อม คิด พูดและลงมือทำจริง ทุกนโยบาย
สำหรับผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 33 เขต จำนวนนี้มี 8 อดีต ส.ส.เดิมที่ย้ายพรรคเข้ามา คือ นางสาวพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ผู้สมัครส.ส.กทม.เขตสาทร ราชเทวี ปทุมวัน, นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ผู้มัคร ส.ส.กทม.เขตคลองเตย วัฒนา, น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตดินแดง พญาไท, นายกษิเดช ชุติมันต์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตลาดพร้าว วังทองหลาง, นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม.เขตบางพลัด บางกอกน้อย, นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ผู้สมัคร ส.ส.เขตห้วยขวาง วังทองหลาง, ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตสวนหลวง ประเวศ และ นายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภนมณี ผู้สมัครส.ส.กทม.เขตจอมทอง
นอกจากนี้ยังมีที่น่าสนใจ คือ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ (ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด) เป็นผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตสายไหม และ นายศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์ (แมน) นักแสดงและพิธีกร เป็นผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตบางเขน สายไหม ลาดพร้าว
โดยเปิดนโยบาย สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน เช่น การเชื่อมกล้อง CCTV บริเวณทางม้าลายช่วยลดอุบัติเหตุ,, รถไฟฟ้าส่วนร่วมไม่เกิน 40 บาทตลอดสาย ขณะที่พื้นที่กรุงเทพตะวันออก มีนโยบายเพิ่มสายรถเมล์และรถเมล์ EV, ตั้งศูนย์กระจายสินค้าเกษตร กรุงเทพฯเหนือ พัฒนาเรื่องที่อยู่อาศัยริมคลอง, เพิ่มจำนวนโรงพยาบาลของรัฐ และกรุงเทพฯ ฝั่งธน มีนโยบายพัฒนาท่าเรือขนส่งการเพิ่มเรือไฟฟ้า EV เชื่อมกล้อง CCTV บริเวณทางม้าลาย ,ศูนย์กีฬาครบวงจร