คัดลอก URL แล้ว
“อัจฉริยะ” บุก สตช. แฉรายชื่อตำรวจก๊อก 2 แก๊งมิยาบิ เอี่ยวพนันออนไลน์-ทุนจีน-ฮั้วประมูล

“อัจฉริยะ” บุก สตช. แฉรายชื่อตำรวจก๊อก 2 แก๊งมิยาบิ เอี่ยวพนันออนไลน์-ทุนจีน-ฮั้วประมูล

หลังจากที่ก่อนหน้านี้นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยนำแผ่นป้ายไวนิลรายชื่อข้าราชการตำรวจ ที่อ้างว่าพัวพันกับเว็บพนันออนไลน์ ตั้งแต่ระดับอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จนถึงร้อยตำรวจโท ชุดแรกจำนวน 16 รายชื่อ จากทั้งหมดที่มีมากกว่า 100 รายชื่อมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ซึ่งในจำนวนนี้มีหัวหน้าขบวนการใหญ่สุด คือพลตำรวจเอก อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และลูกน้อง รวมถึงกลุ่มของตำรวจไซเบอร์รวมอยู่ด้วย

ล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ นายอัจฉริยะ ได้นำป้ายไวนิลรายชื่อตำรวจล็อต 2 ในนามแก๊งมิยาบิมาแฉ ซึ่งนายอัจฉริยะ ระบุว่า แก๊งดังกล่าวเป็นตัวแปลสำคัญในคดีพนันออนไลน์และทุนจีนสีเทา ซึ่งมีพลตำรวจเอก ส.เป็นหัวหน้าแก๊ง มีมือขวาคือเม่นดำ ซึ่งเป็นเจ้ารางวัลจักรดาวที่ถูกสั่งห้ามขึ้นรับรางวัล และมีพลตำรวจโท อ.เป็นมือซ้าย รวมถึงมี โต ทส. และ ปุ๋ย ชลบุรี เป็นมือล็อบบี้ยิสต์

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า แก๊งนี้ยังมีการฮั๊วการประมูลอาคารโรงผลิตกระสุน 10 แห่ง ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 และกองบัญชาการตำรวจนครบาล แต่เมื่อ ตรวจสอบกลับพบว่า อาคารแห่งนี้ถูกปล่อยร้าง ไม่สามารถผลิตกระสุนหรือจัดเก็บดินปืนหรือวัตถุที่ใช้สำหรับผลิตกระสุนได้ ทั้งที่มีการใช้งบประมาณของ สตช.ไปเป็นจำนวนมาก

สำหรับการใช้งบจัดซื้อจัดจ้างอาคารนี้ พลตำรวจเอก ส. ได้สั่งการให้ พลตำรวจโท อ. มือซ้าย เป็นผู้จัดซื้อจัดจ้าง และมีล็อบบี้ยิสต์ คือ นายโต ทส. และ ปุ๋ย ชลบุรี ดำเนินการจัดหาผู้รับเหมา โดยตนได้เตรียมนำเรื่องนี้ไปร้องเรียนผู้ตรวจการแผ่นดินให้ตรวจสอบต่อไป

นอกจากนั้นยังมีการนำภาพลูกชายอดีตนายตำรวจระดับผู้บังคับการจังหวัดปราจีนบุรี ที่เป็นมียยศร้อยตำรวจโท และเป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์มาเปิดเผย โดยระบุว่า นายตำรวจคนนี้มีทรัพย์สินมากกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งผิดปกติ โดยที่ผ่านมาตนเองได้เคยร้องเรียนไปยัง ผบ.ตร. แล้ว แต่คดีก็ยังไม่คืบหน้า ไม่มีการจับกุมลูกชายอดีตนายตำรวจคนดังกล่าว ซึ่งหลังจากนี้ตนก็จะเดินหน้าเปิดโปงขบวนการเว็บพนันต่อไป

นอกจากนี้นายอัจริยะ ยังได้พา นายวีรโชติ เหยื่อที่ถูกดำเนินคดีข้อหาสมคบยาเสพติดและฟอกเงินในปี2563 และถูกจำคุกที่เรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพเป็นเวลาถึง 2 ปี โดยนายสีรโชติ เล่าว่า ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดยาเสพติด แต่กลับถูกดำเนินคดี เนื่องจากมีพยานชี้ตัวผิด และตนต้องต่อสู้คดีในคุก เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเอง จนสามารถออกมาต่อสู้คดีในชั้นอุธรณ์

ทั้งนี้นายอัจฉริยะ มองว่า กรณีดังกล่าว แสดงให้เห็นความเหลื่อมล้ำในการทำคดีของตำรวจกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 3 เป็นการทำคดี 2 มาตรฐาน โดยเฉพาะคดี ส.ว.ทรงเอ ที่อัยการสูงสุดสั่งให้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 3 ดำเนินการในข้อหาเดียวกัน แต่ก็ยังไม่ดำเนินการใดๆ อีกทั้งตำรวจชุดที่จับกุมทุนมินลัด กลับถูกกองบัญชาการตำรวจนครบาล โยกย้ายโดยไม่เป็นธรรมด้วย

นอกจากนี้นายอัจฉริยะ ยังเตรียมที่จะนำป้ายไวนิลมาแฉอดีตตำรวจ ทหาร และ บุคคลที่มีชื่อเสียง ที่สีการเปิดเว็บพนันออนไลน์ รวมถึงที่ไปเล่นการพนันบ่อนของ อัลลัวร์ กรุ๊ป ที่ท่าขี้เหล็กและเมวดี ประเทศเพื่อนบ้าน ภายในสองสัปดาห์ตนจะนำมาเปิดเผย อีกครั้งเป็นรอบที่ 3


ข่าวที่เกี่ยวข้อง