นายชณทัต ปัทมะภูวดล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. อยุธยา เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ขอบคุณผู้บริหารพรรคที่มอบให้ตนเป็นหัวหน้าทีมหาเสียง จ.อยุธยา พรรคพลังประชารัฐ เพราะ จ.อยุธยา มี 5 เขตเลือกตั้ง ในแต่ละเขตยังมีปัญหาที่ยังไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร เมื่อตนและว่าที่ผู้สมัครส.ส.อยุธยา นำนโยบายพรรค เช่น เพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการเเห่งรัฐเป็น 700 บาท/เดือน, การเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุตั้งเเต่ 60 ปีขึ้นไปตามขั้นบันไดสูงสุด 5,000 บาท/เดือน, การแก้ไขปัญหาที่ดิน เเละเเหล่งน้ำ, งบการดูเเลสตรีขณะตั้งครรภ์เดือนละ 10,000 บาทเป็นเวลา 5 เดือน เเละงบอุดหนุนค่าเลี้ยงดูบุตรเดือนละ 3,000 บาท จำนวน 6 ปี สวัสดิการกำนันผู้ใหญ่บ้านผู้ช่วยสารวัตร อสม ผมไปชี้แจงนั้นพบว่าประชาชนตอบรับในระดับที่ดีและจะไว้วางใจพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งครั้งนี้
นายชณทัต กล่าวว่า ตอนนี้ปัญหาต่างๆในพื้นที่ซึ่งพวกตนได้รับเสียงสะท้อนมานั้น พวกตนได้แจ้งไปยังผู้ใหญ่ในพรรครับทราบและขอเป็นนโยบายพรรคเร่งด่วนที่จะแก้ปัญหาในพื้นที่ เช่น ต.พยอม อ.วังน้อย อำเภออุทัย อำเภอภาชี ที่ขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้มาหลายปี รวมทั้งระบบขนส่งและจราจร เพราะประชาชนเข้ามาอาศัยในพื้นที่เยอะเนื่องจากใกล้แหล่งงาน อุตสาหกรรม มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยผู้ใหญ่ในพรรครับทราบเสียงสะท้อนนี้จากประชาชนแล้วและเร่งวางนโยบายเร่งด่วนของพรรคเพื่อช่วยเหลือประชาชนโดยเร็วที่สุด
นายชณทัต กล่าวว่า ส่วนนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้งของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคที่ระบุมาล่าสุดนั้น พวกตนไปชี้แจงกับประชาชนว่าพล.อ.ประวิตรจะผลักดันนโยบายนี้อย่างไร พบว่าประชาชนให้การตอบรับ เพราะเชื่อมั่นในพลเอกประวิตรว่าจะดำเนินการเรื่องนี้ได้ เมื่อ พล.อ.ประวิตร วิดีโอคอลไปในพื้นที่ต่างๆ จะพบว่าพล.อ.ประวิตรได้รับการยอมรับจากประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะพื้นที่ เขต 3 อำเภอวังน้อย อำเภออุทัย ที่ได้โฟนอินแล้วได้รับการตอบรับจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนดีมาก เพราะทุกคนก็ได้เข้ามาพูดคุยถึงปัญหามากมายที่รอการแก้ไข
“ผมทราบจากประชาชนโดยตรงว่า ประชาชนเบื่อความขัดแย้งทางการเมืองที่สะสมมาหลายปีจนประเทศไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร และตอนนี้บางพรรคหาเสียงโจมตีกันและกัน ขอร้องว่าควรหาเสียงเชิงสร้างสรรค์ อย่าสาดโคลนใส่กัน ไม่อย่างนั้นจะเกิดปัญหาความขัดแย้งไปเรื่อยๆ และประชาชนในพื้นที่มั่นใจในตัวลุงป้อมว่าจะแก้ปัญหานี้ได้ แม้ตอนนี้บางพรรคจะดิสเครดิตลุงป้อมในเรื่องนี้ แต่อยากถามว่ากลุ่มการเมืองที่เคลื่อนไหวในช่วงที่ผ่านมา พบว่ามีสมาชิกพรรคนั้นๆไปร่วมใช้ความรุนแรงในการชุมนุมและเคารพกฎหมายหรือไม่ เชื่อว่าสังคมรับรู้และพิจารณาได้”
นายชณทัต กล่าวว่า ตนขอแนะนำว่า แต่ละพรรคควรเสนอนโยบายแก้ปัญหาให้ประชาชนตัดสิน และอย่าเล่นการเมืองด้วยวิธีใต้ดินในรูปแบบต่างๆเพราะตอนนี้ในหลายพื้นที่มีการใช้วิธีใต้ดินกันแล้ว ดังนั้นทุกคนควรเคารพกันและกัน และอย่าละเมิดกฎหมาย เพราะปัจจุบันนี้โลกเปลี่ยนไปคนรุ่นใหม่การเมืองรุ่นใหม่คิดสร้างสรรค์ แก้ปัญหาให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนจะดีกว่า