เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 66 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1/2566
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้ประกอบด้วยหน่วยงานต่าง ๆ ประชุมติดตามความคืบหน้า โดยดำเนินการตามแผนวาระแห่งชาติซึ่งทุกหน่วยงานดำเนินการอยู่ คาดว่าในวันที่ 5 ก.พ. 66 สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 จะดีขึ้น เนื่องจากได้รับรายงานจากกรมฝนหลวงและการบินเกษตรว่าได้มีการทำฝนหลวงใน จ.ระยอง อาจจะส่งผลให้มีฝนตกในกรุงเทพฯ พื้นที่เขตลาดกระบัง ประเวศ บางนา ซึ่งอาจจะช่วยบรรเทาสถานการณ์ฝุ่นให้ดีขึ้น คาดการณ์ว่าฝนตกและความชื้นที่เพิ่มขึ้นจะช่วยบรรเทาความรุนแรงของฝุ่นลงได้ ด้านกองทัพภาคที่ 1 มีการฉีดละอองน้ำตามจุดต่าง ๆ ส่วนสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) ได้ร่างระเบียบการออกรถยนต์ใหม่โดยใช้มาตรฐาน ยูโร 5 ซึ่งปล่อยไอเสียน้อยกว่าเดิม 10 เท่า และกรมธุรกิจพลังงานได้ปรับเปลี่ยนน้ำมันรองรับเครื่องยนต์ใหม่อีกด้วย นอกจากนี้ กรมสรรพสามิต ซึ่งสามารถคิดภาษีในการออกรถ เช่น รถที่ปล่อยมลพิษน้อยคิดภาษีน้อย รถที่ปล่อยมลพิษเยอะคิดภาษีเยอะ ในอนาคตอาจจะออกข้อบัญญัติเก็บภาษีกับรถที่ปล่อยมลพิษเยอะในรายปี
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา กรมควบคุมมลพิษ ได้มีพัฒนาศักยภาพการพยากรณ์ฝุ่น PM2.5 ที่มีความแม่นยำมากขึ้น ทำให้กทม.สามารถเตือนภัยได้อย่างแม่นยำผ่านแอปพลิเคชัน AirBKK หรือผ่าน Line Alert เพื่อให้ประชาชนได้เตรียมการป้องกัน เช่น การ Work from Home เป็นต้น
ทั้งนี้ กทม.ได้เปิดคลินิกมลพิษทางอากาศเพิ่มเป็น 6 โรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลตากสิน โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ โรงพยาบาลสิรินธร และล่าสุดคือโรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ฯ
“ทุกหน่วยงานทำงานเต็มที่ ตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ซึ่งเชื่อว่าเมื่อทุกคนทำเต็มที่แล้ว ในระยะยาวฝุ่นจะลดลงได้” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว