คัดลอก URL แล้ว
ดีเอสไอ เร่งตรวจสอบ “รถเสี่ยเบนท์ลีย์” เลี่ยงภาษี อยู่ในกลุ่มรถหรูหรือไม่

ดีเอสไอ เร่งตรวจสอบ “รถเสี่ยเบนท์ลีย์” เลี่ยงภาษี อยู่ในกลุ่มรถหรูหรือไม่

13 ม.ค. 2566 นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ ออกมาให้ข้อมูลกรณีเกี่ยวกับคดีรถหรูหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร นำเข้าโดยสำแดงเอกสารเป็นเท็จ รวม 1,428 คัน ซึ่งพบว่าในช่วงที่ตนเองเข้ามารับตำแหน่งปี 2564 มีการดำเนินคดีส่งฟ้องเพียง 167 คันเท่านั้น  ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมจึงมีคำสั่งให้ดำเนินการคดีรถหรูที่เหลือให้แล้วเสร็จก่อนคดีหมดอายุความ ตนจึงแต่งตั้ง พันตำรวจโท พเยาว์ ทองเสน  รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินคดี 1,200 กว่าคันที่เหลือ พบมี 113 นิติบุคคล 1 บุคคล กระทำผิด

เมื่อสอบถามว่า คดีรถหรูนี้มีความเชื่อมโยงกับคดีเสี่ยเบนท์ลีย์ด้วยหรือไม่ เนื่องจากพบว่ารถเบนท์ลีย์คันเกิดเหตุ เคยถูกศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ ของกองบังคับการปราบปรามคดีเศรษฐกิจ ในสมัย พลตำรวจตรี โกวิท วงศ์รุ่งโรจน์ เป็น ผบก.ปอศ. จับกุมในข้อหานำเข้ารถยนต์มีพฤติการณ์ส่อว่าหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร นำเข้าโดยสำแดงเอกสารเป็นเท็จมาแล้ว ทาง อธิบดีดีเอสไอ บอกว่า ขณะนี้กำลังให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าอยู่ในบัญชีสารระบบของดีเอสไอหรือไม่ เนื่องจากคดีรถหรูที่ดีเอสไอดูแลอยู่มีจำนวนมาก ซึ่งการตรวจสอบต้องละเอียดถึงเลขตัวถัง เพราะหากเป็นรถยี่ห้อเดียวกัน ทะเบียนเดียวกันก็จริงแต่อาจมีการเปลี่ยนทะเบียนมาก่อนหน้านั้นได้ ซึ่งจากข้อมูลเรื่องของเสี่ยคนขับรถเบนท์ลีย์ที่มีธุรกิจนำเข้ารถด้วยในส่วนนี้ อธิบดีดีเอสไอยังไม่มีข้อมูล โดยบอกว่าจะนำเรื่องนี้ไปตรวจสอบต่อไป

ส่วนกรณีที่มีบุคคลอ้างว่าเป็นข้าราชการระดับสูงของดีเอสไอโดยภายหลังมีข้อมูลเปิดเผยมาว่าเป็นระดับอธิบดีดีเอสไอ ซึ่งคาดว่าจะเป็นอดีตข้าราชการนั้น อธิบดีดีเอสไอ บอกว่า เบื้องต้นมีข้อมูลจากข่าวที่เป็นพยานอ้างอิงเรื่องนี้ 3 ราย ซึ่งหลังจากนี้จะเชิญมาให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร หากพบว่ามีบุคคลกล่าวอ้างจริงแล้วทำให้ดีเอสไอเสื่อมเสียชื่อเสียงก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย แม้ว่าจะเป็นอดีตข้าราชการของเอสไอก็จะดำเนินคดีเหมือนบุคคลทั่วไป แต่จะเป็นคดีข้อหาใดต้องปรึกษาทางฝ่ายกฎหมายก่อน หากหลักฐานแน่ชัดว่ามีการกล่าวอ้างถึงองค์กรแล้วกระทบต่อชื่อเสียง รวมถึงผิดกฎหมายบ้านเมืองก็จะไม่ละเว้นการดำเนินคดีอย่างแน่นอน

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่จะมีการเลื่อนตำแหน่งมักจะมีข่าวที่ทำให้เสียชื่อเสียงออกมาตลอดอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อมีประเด็นอะไรเกิดขึ้นก็จะพยายามตรวจสอบด้วยความโปร่งใสที่สุดตามข้อเท็จจริง


ข่าวที่เกี่ยวข้อง