คัดลอก URL แล้ว
ตำรวจตัวอย่างไม่ทิ้งคดีตามจับผู้ต้องหาทวงเงินคืนเหยื่อ 2 แสนแม้ต้องใช้เวลานานถึง 2 ปี

ตำรวจตัวอย่างไม่ทิ้งคดีตามจับผู้ต้องหาทวงเงินคืนเหยื่อ 2 แสนแม้ต้องใช้เวลานานถึง 2 ปี

ช่วงบ่ายวันนี้ผู้เสียหายในคดีฉ้อโกงถูกหลอกโอนเงิน 2 แสนซื้อหน้ากากอนามัยตั้งแต่ปี 2563 เดินทางมาที่ สน.ดินแดง เพื่อขอบคุณร้อยตำรวจเอก เอกปภาวิน ดอนมูลไพร พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองสารวัตรจราจร สถานีตำรวจสุทธิสาร

คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อปี2563 ผู้เสียหายเล่าว่าได้สั่งซื้อหน้ากากอนามัยจากเว็ปไซต์แห่งหนึ่ง เพื่อนำมาขายต่อในช่วงสถานการณ์โควิดระบาดหนัก  โดยโอนเงินซื้อขายไปกว่า 2 แสนบาท แต่ไม่ได้รับสินค้า จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีเอาไว้ ที่สถานีตำรวจนครบาลดินแดง ในข้อหาฉ้อโกง ซึ่งเป็นเวลานานกว่า 2 ปีไม่คิดว่าจะตามตัวผู้ต้องหาได้เนื่องจากตำรวจแจ้งในขณะนั้นว่า ผู้ต้องสงสัยอาศัยอยู่ต่างประเทศ ทำให้การติดตามตัวมาดำเนินคดีเป็นไปได้ยากจึงคิดว่าคงจะสูญเงิน2แสนบาทไปอย่างแน่นอน

แต่เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ได้รับการติดต่อจากพนักงานสอบสวนคนเดิม ว่าสามารถติดตามตัวผู้ต้องสงสัย หลังเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย จึงได้เชิญตัวมาสอบปากคำ ซึ่งตัวผู้ต้องสงสัยปฎิเสธ แต่เมื่อตรวจสอบบัญชีแล้วกลับพบว่ามีเงินเข้าบัญชีจริง จึงยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้ เพราะคดีฉ้อโกงเป็นคดียอมความได้ ผู้ต้องสงสัยจึงมีความประสงค์จะคืนเงินเพื่อไม่ให้ถูกดำเนินคดี จึงได้นัดคืนเงินที่สถานีตำรวจนครบาลดินแดงเมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา

 ผู้เสียหายยังระบุอีกว่า “รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก และรู้สึกทราบซึ้งในการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจนายนี้ ที่ช่วยติดตามคดีจนถึงที่สุด ถึงแม้เวลาจะลวงเลยมานาน 2 ปีแล้วก็ตาม อีกทั้งยังปฎิเสธที่จะรับของขวัญสินนำใจอีกด้วย”

ด้าน ร.ต.อ. เอกปภาวิน เผยว่า เป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องติดตามคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งกรณีดังกล่าวพบว่าตัวผู้ต้องสงสัยเดินทางเข้าประเทศ จึงเชิญตัวมาสอบปากคำตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมยืนยันว่าเฝ้าติดตามความคืบหน้าทุกคดีที่ได้รับขณะดำรงตำแหน่งพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง อย่างเท่าเทียมกัน แต่บางคดีต้องใช้เวลาในการตรวจสอบและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเฝ้ารอโอกาสในการจับกุมตัวผู้กระทำความผิด

#ตำรวจดี #ตำรวจ #ฉ้อโกง #หลอกโอน #ข่าว #ข่าววันนี้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง