วันนี้ (23 ธ.ค. 2565) เมื่อเวลา 11.00 น. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เดินทางมาที่สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารถนนบรมราชชนนี ตลิ่งชัน เพื่อนำหลักฐานเข้าให้ถ้อยคำกับคณะทำงานอัยการสูงสุด ในคดีของนายตู้ห่าว ตามที่คณะทำงานอัยการสูงสุดได้เรียกนายชูวิทย์เข้ามาให้ข้อมูล
นายชูวิทย์ กล่าวว่า ประเด็นที่ตนจะให้ข้อมูลและหลักฐานกับคณะทำงานอัยการสูงสุด จะเน้นไปที่ 2 เรื่อง ได้แก่ เรื่องการตั้งข้อหาสมคบฟอกเงิน โดยได้นำเอกสารมาให้อัยการเห็นถึงเส้นทางการเงิน โดยยืนยันว่า ต้องรีบดำเนินคดีนายตู้ห่าวในข้อหานี้ เพราะหากยิ่งช้า ก็จะเป็นการปล่อยเวลาให้มีการโยกย้ายถ่ายเททรัพย์สินได้ เพราะถึงแม้นายตู้ห่าวจะอยู่ในเรือนจำ แต่จากแผนผังเส้นทางการเงินที่ตนมี จะเห็นว่ามีนอมินีและบุคคลอีกมากในขบวนการนี้
ส่วนอีกประเด็น คือ เรื่องอำนาจการสั่งคดี ซึ่งตนไม่ต้องการให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนเป็นผู้สั่งคดีเอง โดยประเด็นนี้ ช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้โทรศัพท์มายืนยันกับตนแล้วว่า จะเป็นผู้เซ็นสั่งคดีแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเอง
นายชูวิทย์ ยังเปิดเผยอีกว่า ช่วงตีห้าที่ผ่านมา ตนได้รับข้อมูลมาว่า ขณะนี้กลุ่มคนจีนกำลังวางแผนหลบหนี ทั้งคนจีนที่ถูกกักอยู่ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และคนจีนที่ในวันเข้าตรวจค้นผับจินหลิง ไม่ได้ถูกดำเนินคดีเพราะตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติด โดยกลุ่มคนจีนเหล่านี้กำลังมีการเจรจากับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองว่า จะยอมจ่ายคนละ 5 ล้านบาท เพื่อให้ปล่อยตัวออกมาและจะเช่าเครื่องบินเหมาลำไปลงที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เนื่องจากไม่กล้ากลับประเทศจีนเพราะมีคดียาเสพติด ดังนั้น ตนจึงขอเตือนไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองว่าให้คิดให้ดีหากจะรับเงินจากคนจีน เพราะตนมีข้อมูลสำเนาพาสปอร์ตของคนจีนทุกคน