วันนี้ 12 ธันวาคม 2565 ร้อยตรี จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน หรือ คน. กล่าวภายหลังลงพื้นที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาสะพานควาย เพื่อตรวจสอบการปิดป้ายแสดงราคาสินค้า ตรวจสอบกระเช้าของขวัญปีใหม่ และตรวจให้คำรับรองเครื่องชั่งดิจิทัล ว่าเป็นไปตามข้อสั่งการของอธิบดีกรมการค้าภายในในการติดตามสถานการณ์ราคาและปริมาณสินค้าอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ทั้งตลาดสด ห้างค้าปลีก-ค้าส่ง ห้างท้องถิ่น ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในได้ส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจลงพื้นที่เป็นประจำทุกวัน รวมทั้งในช่วงวันหยุดยาวใกล้เทศกาลปีใหม่ ซึ่งมีประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอย ซื้อสินค้าอาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค และของขวัญ กันเป็นจำนวนมาก โดยการลงพื้นที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาสะพานควายครั้งนี้ เพื่อตรวจสอบการปิดป้ายแสดงราคาสินค้า ตรวจสอบกระเช้าของขวัญ และตรวจให้คำรับรองเครื่องชั่งดิจิทัล เพื่อให้ความมั่นใจว่าประชาชนผู้บริโภคจะได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อสินค้าและบริการ
“จากการลงพื้นที่และหารือกับผู้บริหารของห้างฯบิ๊กซี พบว่าช่วงนี้ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยซื้อเพิ่มมากขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 20-30 % โดยสินค้ามีเพียงพอต่อความต้องการ ส่วนราคาก็มีให้เลือกหลากหลาย และมีการจัดโปรโมชั่นลดราคามากมาย ซึ่งนอกจากจะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยแล้วยังช่วยลดภาระค่าครองชีพได้ส่วนหนึ่ง”รองอธิบดีกรมการค้าภายในเผย
ร้อยตรี จักราย้ำด้วยว่าจากการรายงานการลงพื้นที่สำรวจของทีมสายตรวจเฉพาะกิจ กรมการค้าภายในพบว่าสินค้าที่เริ่มขายดีในช่วงนี้ คือ กระเช้าของขวัญซึ่งห้างต่างๆ นำออกมาจำหน่ายและมีการจัดโปรโมชั่นลดราคาหลากหลาย จึงได้ตรวจสอบและกำชับในเรื่องการปิดป้ายแสดงราคาให้ถูกต้อง ชัดเจน โดยการแสดงราคากระเช้าของขวัญนั้นต้องแสดงรายการสินค้าด้านใน ขนาด น้ำหนักต่อหน่วย ปริมาณการบรรจุ ราคาของสินค้าแต่ละรายการ และต้องมีขนาดตัวอักษรไม่ต่ำกว่า 16 นอกจากนี้กรณีที่มีค่ากระเช้าและค่าจัดกระเช้าก็ต้องแสดงไว้อย่างชัดเจนด้วย สำหรับสินค้าในกระเช้าควรแสดงวันหมดอายุและเป็นสินค้าที่มีอายุอยู่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน หากตรวจสอบและพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้า และปฏิเสธการจำหน่ายต้องโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ กรณีประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน กรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ จะมีการตรวจสอบให้ความเป็นธรรมในทุกกรณี หากพบการกระทำผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดต่อไป