วันนี้ 4 ธันวาคม 2565 ที่บ้านไม้ชั้นเดียวทรงไทย ภายในซอยรามอินทรา 21 แยก 12 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน. กรุงเทพฯ นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ ได้เข้าไปดูแลและให้ความช่วยเหลือ นายนเรศ ชูสงฆ์ อายุ 50 ปี ป่วยเป็นอัมพาตจากโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ทำให้ร่างกายฝั่งซ้ายอ่อนแรง โดยนำแพมเพิสจากกลุ่มผู้ใจบุญไปมอบให้ ส่วนนางนิตยา ชูสงฆ์ อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นภรรยาคู่ทุกข์ คู่ยาก ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมคอยดูแล
เมื่อเดินทางไปถึงพบนายนเรศนอนอยู่บนฟูกชานหน้าบ้าน ไม่สามารถขยับร่างกายฝั่งซ้ายได้ โดยมีนางนิตยา ภรรยาคอยดูแล โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นของนายไพรัช สุขวารี ที่ให้ทั้งสองพักอยู่อาศัยรักษาตัวโดยไม่คิดค่าเช่า
นางนิตยาเล่าว่า ตนป่วยเป็นมะเร็งทรวงอกระยะ 3 มานาน 3-4 ปี เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ครอบครัวป่วยเป็นโควิด-19 ทั้งบ้าน ทำให้สามีมีอาการแทรกซ้อน ด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ทำให้ร่างกายไม่รู้สึกอะไร ต้องรักษาโควิด 20 วัน เมื่อออกมาไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ทำให้ลูกสาวต้องออกจากงานประจำ มารับจ้างตามร้านก๋วยเตี๋ยว เพื่อคอยฉีดอินซูลินให้นายนเรศจากโรคเบาหวานอีก
ในขณะที่อาการป่วยมะเร็งเต้านมของตนก็กำเริบ ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายทั้งการเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลภูมิพล ค่าแพมเพิสให้สามีเยอะมาก เมื่อก่อนตนขายของหน้าบ้าน ส่วนสามีเคยขับแท็กซี่ แต่ตอนนี้ขับรถไม่ได้ ตนขายของไม่ได้เลยแย่ แต่ยังดีว่าทางเจ้าของบ้านเมตตาให้อยู่บ้านโดนไม่เก็บค่าเช่า คอยหาหมอนวดมากายภาพสามีให้ด้วย เจ้าของบ้านเป็นคนใจดีมาก แต่ตนรู้สึกเกรงใจ จึงตัดสินใจติดต่อคุณหมอทศพรขอความช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายจากการเดินทางไปรักษาพยาบาล
ด้านนายแพทย์ทศพรกล่าวว่า ตนทำงานเกี่ยวกับสังคมมานาน เป็นแพทย์เจอคนลำบากมาตลอด หลังได้รับการร้องขอความช่วยเหลือ จึงลงพื้นที่มาเยี่ยม การที่ผู้ป่วยได้เห็นหน้าหมอเขาก็มีความสุขแล้ว ขณะนี้สิทธิ์ของคนป่วย คนเจ็บป่วย รักษาด้วยสิทธิ์ 30 บาทรักษาทุกโรคนั้นดีแล้ว แต่การเดินทางไปรักษาพยาบาลเป็นอะไรที่อาจจะถูกมองข้าม
อย่างกรณีนี้ภรรยามีเงินไม่พอ ต้องเสียสละให้สามีไปรักษาตัว ขณะที่ตัวเองเป็นมะเร็งเต้านมระยะ 3 จากนี้ขอให้นางนิตยา ไปรพ.ทุกวันเพื่อให้คีโม ตนพร้อมให้ความช่วยเหลือ โดยมีพี่น้องประชาชนมาระดมความช่วยเหลือกัน สามารถบริจาคได้ที่ เลขบัญชี 1443433585 ธนาคารกสิกรไทย สาขารามอินทรา ชื่อบัญชี น.ส.ณัชรีญาวดี ชูสงฆ์ (ลูกสาว)
นายแพทย์ทศพรกล่าวว่า คนไข้ติดเตียงไปไหนมาไหนไม่ได้ มีภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางไป รพ. ถ้าตนมีความรับผิดชอบในวันนึงจะทำให้ดีกว่านี้ ด้วยการจัดให้มีสวัสดิการรับผู้ป่วยไปส่ง รพ.บริการให้คนป่วย ทุกวันนี้ระบบสาธารณสุขเน้นการรักษาเสียเยอะ ควรต้องคิดจะป้องกัน ลดคนไข้ให้ได้ ขอให้คนทั่วไปหันมาออกกำลังกาย รัฐให้ความรู้เรื่องสุขศึกษา จะช่วยลดคนไข้ได้เยอะ เพราะหลายโรค สามารถป้องกันได้ด้วยการออกกำลังกาย อีกอย่างระบบสวัสดิการของประเทศ ควรเอาเงินมาดูแลสุขภาพประชาชนให้ดีกว่านี้
