เครือข่ายลดอุบัติเหตุ ชี้ขยายเวลาเปิดถึงตี 4 เท่ากับขยายเวลาดื่ม เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุสูง
ชนคนตาย 1 คน อาจกระทบกับคนทั้งครอบครัว ได้ไม่คุ้มเสีย
ขอช่วยหยุดความสูญเสียจากดื่มแล้วขับอย่างจริงจัง เชื่อว่ามีช่องทางส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอีกมาก
จากกรณีข่าวที่ จะมีการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงจากเดิม 02.00 น. ถึงเวลา 04.00 น. ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยสามารถเปิดได้ในบางพื้นที่ ได้แก่ ถนนบางลาในภูเก็ต กระบี่ พังงา สมุย เมืองพัทยา และ 3 พื้นที่ในกรุงเทพฯ คือ ถนนข้าวสาร ซอยคาวบอย และซอยพัฒน์พงษ์ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น
นายพรหมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวได้
มีหลายหน่วยงานออกมาแสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย เกี่ยวกับผลกระทบหากมีการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 ซึ่ง สคอ.เองเป็นหน่วยงานด้านการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุมายาวนาน เห็นภาพความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากคนเมา คนดื่มแล้วขับไปชนคนอื่นเสียชีวิต ภาพการกอดคนรัก คนในครอบครัวที่จากไปในเวลาที่ไม่สมควร ภาพเหล่านั้นวนเกิดซ้ำไปมาไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกต่อไป หากเราสามารถที่จะปกป้องชีวิตลูกหลานหรือคนที่รักได้ และการอนุญาตให้เปิดได้ถึงตี 4 กลไกทางสังคมอาจได้รับผลกระทบหนักขึ้น เริ่มตั้งแต่มีบางครอบครัวขาดเสาหลักของบ้าน ลูกขาดพ่อแม่ ปัญหาครอบครัว คนพิการเพิ่มขึ้น ความทุกข์เพิ่มขึ้น การเกิดเหตุหลัง 4 ทุ่มมีความเสี่ยงสูง ไม่ว่าเรื่องรถที่ขับเร็ว ถนนโล่ง แสงสว่างไม่เพียงพอ และคนที่มีสภาพไม่พร้อม เพราะถนนเมืองไทย ยังมีคนที่ดื่มแล้วขับและเมาขับรถอยู่ตลอดทั้งวันแต่จะมากขึ้นในช่วงกลางคืน ข้อมูลผู้ป่วยอุบัติเหตุฉุกเฉินชี้ชัดว่าผู้ป่วยอุบัติเหตุที่เข้ารักษาในโรงพยาบาล มากกว่า 50% มีแอลกอฮอล์เกี่ยวข้องด้วย และมีมากในช่วงกลางคืน หากเปิดให้มีกิจกรรมหลัง 4 ทุ่ม เชื่อว่าสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนจะเพิ่มขึ้นสูง 5-10 เท่า ทุกวันนี้กลไกการรับมืออุบัติเหตุทางถนนบ้านเรายังไม่พร้อมโดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีน้อย เครื่องมือไม่เพียงพอ การตั้งด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ที่ยังไม่ทั่วถึง ซึ่งรวมถึงโรงพยาบาลที่แพทย์ พยาบาล เข้าเวรทำงานน้อยกว่าช่วงเวลาปกติ หากเกิดเหตุพร้อมๆกัน ก็จะทำให้ไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง หน่วยฉุกเฉินหรือกู้ชีพ กู้ภัย ที่รอรับเหตุ บางหน่วยอาจไม่พร้อมออกปฏิบัติงานช่วยเหลือ ณ จุดเกิดเหตุได้ทันท่วงทีหากมีอุบัติเหตุมาก ดังนั้นการที่ออกเที่ยวหลัง 4 ทุ่ม มีความเสี่ยงสูงและอาจเสียชีวิตจากคนที่ดื่มแล้วขับหรือเมาแล้วขับชนได้ และหากยิ่งชอบขับรถเร็วและดื่มแล้วขับ ยิ่งทำให้โอกาสรอดลดน้อยลง นอกจากนี้ผลกระทบที่จะตามมาทั้งฝ่ายคนขับและคนโดนชน รุนแรงกว่าสถานการณ์ทั่วไป มีผลกระทบต่อทรัพย์สิน และการชดใช้ค่าเสียหาย
นายพรหมินทร์ กล่าวต่อว่า ช่วงเวลาเลิกจากสถานบันเทิงตี 4 ของนักเที่ยวน่าจะมีโอกาสสูงที่จะเมาแล้วขับ และเป็นต้นเหตุที่อาจทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต อีกด้านกลับเป็นช่วงเริ่มต้นการทำงานของหลายคน เช่น พนักงานทำความสะอาดถนน ผู้ที่ต้องเดินทางไปทำงานช่วงเช้า คนออกกำลังกาย เด็กนักเรียนไปโรงเรียน หรือแม้กระทั่งแม่บ้านไปจ่ายตลาดเช้า ซึ่งหากต้องเจอกับคนเมาแล้วขับที่เพิ่งเลิกจากสถานบันเทิง ที่ไม่สามารถควบคุมหรือมีสติในการขับรถ เกิดอุบัติเหตุชนคนบาดเจ็บและเสียชีวิต ผลกระทบที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่ผู้เสียชีวิตเท่านั้น เขายังมีครอบครัว มีคนที่รักคอยอยู่ มีตัวอย่างให้เห็นอยู่มากที่บางคนถึงกับเสียอนาคต เสียแขนขากลายเป็นผู้พิการจากอุบัติเหตุจากการดื่มแล้วขับ บางครอบครัวผู้เสียชีวิตคือเสาหลัก คือคนหารายได้เข้าบ้าน เมื่อเกิดเหตุขึ้นผู้คนเหล่านี้จะอยู่ต่อกันเช่นไร การสูญเสียเสาหลักของครอบครัวส่งผลกระทบในระยะยาว ทั้งรายได้ และจิตใจที่ต้องรักษา และใช้เวลาเยียวยาฟื้นฟูเพื่อให้กลับมาเหมือนเดิม
“ท้ายสุดนี้ ทุกอย่างต้องมองอย่างรอบด้าน คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา เพราะการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุสูง การที่อนุญาตให้เปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 นั้น ควรต้องพิจารณาให้ดีว่าจะเกิดผลกระทบในด้านใดบ้างทั้งบวกและลบ สำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่อาจต้องแลกมากับความเสียหายและผลกระทบต่างๆ” นายพรหมินทร์ กล่าว